กรอ.พาณิชย์ ผุด15แนวทางดันส่งออกปี63

21 ต.ค. 2563 | 10:49 น.

กรอ.พาณิชย์ ผุด15 แนวทางเร่งหาทางออก หวังช่วยดันส่งออกไทยปี63 ให้กระเตื้อง หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ด้านสอท.-หอการค้า เห็นด้วย ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันหาทางออก ขณะที่หอการค้ามองส่งออกไทยปีนี้ติดลบ6.5%  ด้านพาณิชย์ประเมินติดลบต่ำกว่า7%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 2/2563 ที่ประกอบด้วย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สมาคมธนาคารไทย ว่า  ที่ประชุมเห็นชอบในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและหาทางออกเพื่อผลักดันการส่งออกของไทยใน 15 ประเด็นสำคัญ ภายใต้ผลกระทบของเศรษฐกิจจากปัญหาโควิด-19 โดยมั่นใจว่าจากความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้การค้า การส่งออกของไทยดีขึ้นหลังจากแนวโน้มการส่งออกดีขึ้น และการส่งออกทั้งปีต่ำกว่า ติดลบ 7%

กรอ.พาณิชย์ ผุด15แนวทางดันส่งออกปี63

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการส่งออก และแนวทางการผลักดันการส่งออกไทยจากนี้ใน 15  ประเด็นหลักได้แก่  การเร่งรัดการส่งมอบข้าวของไทยไปจีน หลังลงนามบันทึกข้อตกลงส่งออกปริมาณ 1 ล้านตัน  โดยส่งมอบไปแล้ว  7 แสน  ยังคงเหลือ 3 แสนตันที่อยู่ระหว่างเร่งเจรจาส่งมอบ  การเร่งผลักดันส่งออกรถยนต์ไปเวียดนาม หลังติดปัญหาเรื่องการตรวจสอบรถยนต์ ซึ่งเกิดความซ้ำซ้อนทำให้การส่งออกล่าช้า ล่าสุดมีการแก้ไขปัญหาโดยการทำข้อตกลง 10 ประเทศในอาเซียนสำหรับการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ส่งออก ซึ่งทำได้จะทำให้การส่งออกเร็วขึ้น

การแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้าไทย  โดยเฉพาะกลุ่มเคมีภัณฑ์  ปุ๋ยเคมี  ซึ่งอินเดียกำหนดมาตรฐานการส่งออกมีผลบัคับใช้ต้นปี 2564  นี้  โดยเร่งให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศแก้ไขเรื่องนี้  การส่งออกรถยนต์ใหม่  ที่ติดปัญหาเรื่องของไม่มีทะเบียนรถยนต์ทำให้การส่งออกติดขัดบริเวณท่าเรือ  มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขเรื่องนี้  การเร่งประชาสัมพันธ์สินค้าไทยปลอดเชื้อโควิด-19  ในหลายภาษาเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้นำเข้า  หลังจากบันทึกข้อตกลงจาก 4 กระทรวงหลักที่ให้การรับรองคุณภาพสินค้าไทย

กรอ.พาณิชย์ ผุด15แนวทางดันส่งออกปี63

การเร่งเจรจาแก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์  การแก้ไขปัญหาเรื่องของค่าเงินบาท  การแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้าน้ำตาลไทยไปเวียดนาม  ทำให้เวียดนามกล่าวหาเรื่องของการทุ่มตลาดน้ำตาล  การส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  เข้าถึงแหล่งเงินทุน  โดยประสานไปยังธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงก์) ในการเพิ่มช่องทางหลักประกันในการกู้เงิน  การเร่งรัดเปิดด่านชายแดนสำคัญ  โดยเฉพาะด่านไทย-สปป.ลาว  ไทย-กัมพูชา  เร่งให้มีการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 ประเทศ ได้แก่  ไทย-สปป.ลาว-จีน  เพื่อสร้างความร่วมมือการค้า การส่งออก

 

การพัฒนาส่งเสริมผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ในการส่งออกสินค้าชายแดน-ข้ามแดน  การอำนวยความสะดวกในรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO)  เนื่องจากมีความล่าช้า  การเร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  โดยเฉพาะข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ)  เช่น FTA ระหว่าง ไทย-สหภาพยุโรป  ไทย-อังกฤษ  ไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ,ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป หรือ EFTA  การผลักดันการลงนาม ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป  การผลักดันการจัดทำกองทุน เอฟทีเอ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ 

ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.)  กล่าวว่า  สำหรับการหารือ กรอ.พาณิชย์  ครั้งนี้  เชื่อว่าเป็นแนวทางสำคัญที่ทุกหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการหาทางออกแก้ไขปัญหาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น  พร้อมกันนี้  จะเป็นส่วนช่วยให้เอกชนผลักดันการส่งออกและลดต้นทุนที่เกิดขึ้น  นอกจากนี้  สำหรับทิศทางการส่งออกทั้งปี 2563  ของไทยนั้น  จากที่ประชุม กกร. มองเป้าหมายการส่งออกไทยทั้งปี ติดลบ 10-12% ในช่วงต้นปี  และปรับประมาณการอย่างต่อเนื่องลงมาที่  ติดลบ 8-10% และจากสถานการณ์ที่ดีขึ้น  แนวทางการแก้ไขปัญหาการส่งออก  เชื่อว่าการส่งออกทั้งปี  น่าจะต่ำกว่าที่ประเมินไว้  โดยเฉพาะขณะนี้ตัวเลขการส่งออกรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น

กรอ.พาณิชย์ ผุด15แนวทางดันส่งออกปี63

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  หอการค้าไทยมองว่าการส่งออกไทยทั้งปี  2563  คาดว่าจะอยู่ที่ ติดลบ 6.5%  จากทิศทางสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น  ส่งผลต่อภาคการส่งออกเริ่มขยับตัว  นอกจากนี้  ยังประเมินว่า  การส่งออกในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2563  จะมีทิศทางที่ดีขึ้น  ส่งผลให้เชื่อว่าการส่งออกในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2564  น่าจะติดลบไม่มาก

กรอ.พาณิชย์ ผุด15แนวทางดันส่งออกปี63