อุตุฯประกาศ ฉ.1 รับมือพายุลูกใหม่ 12-14 ต.ค. กระทบไทย

10 ต.ค. 2563 | 09:19 น.

กรมอุตุฯ เตือน "ดีเปรสชัน" ทะเลจีนใต้ตอนกลาง ฉบับ1 จับตาทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อนต่อไป ขณะที่เพจเตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้า พายุ  โพสต์คาดว่าจะก่อตัวเป็นพายุ ในวันที่ 12-14 ต.ค.นี้ กระทบไทยมีฝนตกชุกต่อเนื่อง

10 ตุลาคม 2563 กรมอุตุนิยมวิทยาออก"ประกาศกรม"พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2563
 

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (10 ต.ค. 63) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนผ่านบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. 63

 

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ประกาศ ณ วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.

 

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น.

กรรวี สิทธิชีวภาค

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาฝ่ายปฏิบัติการ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการตรวจสอบแผนที่ทางอากาศพบว่าในทะเลจีนใต้ตอนกลางมีลักษณะเป็นพายุระดับ 2 หรือ ดีเปรสชัน มีความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทวีกำลังแรงขึ้นจะเป็นพายุโซนร้อน

 

ทางกรมอุตุฯ กำลังติดตามจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะมีการพัฒนาแรงขึ้นหรือไม่  ต้องรอจับตาอีกสักระยะหนึ่ง จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ ซึ่งหากมีผลกระทบจะต้องศูนย์วอร์รูมรับมือ หรือศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ เพื่อแจ้งเตือน โดยมีคณะทำงานติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของพายุดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบทุก 3 ชั่วโมง ก่อน และเพิ่มความถี่เป็นรายงานทุก 1 ชั่วโมง ทันที

 

"วัตถุประสงค์เพื่อแจ้งเตือน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบในการตัดสินใจที่จะช่วยกันลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ประชาชนสามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยาhttp://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 "

 

 

อุตุฯประกาศ ฉ.1 รับมือพายุลูกใหม่ 12-14 ต.ค. กระทบไทย

 

ด้านเพจเตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้า พายุ   โพสต์ด่วน เตือนหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 92 W คาดว่าจะก่อตัวเป็นพายุในอีก 1-2 วันข้างหน้านี้ คาดว่าจะเริ่มมีผลกระทบประมาณวันที่12 ถึง 14 ตุลาคม ​2563​ โดยคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนามตอนกลาง เข้า สปป.ลาว ก่อนที่จะกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเข้าสู่ประเทศไทย อุบลราชธานี มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ คาดการณ์ว่าบริเวณนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำ

 

จากโมเดลการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งได้มีการอัพเดทข้อมูลต่อเนื่อง ดูแล้วลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ยังมีตกต่อเนื่อง จากกระแสลมทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดแรงและสนับสนุนความชื้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกอยู่  

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

มาอีกแล้ว พายุในทะเลจีนใต้