เฮ คนป. เคาะประกันรายได้ชาวสวนปาล์มต่ออีก 3 เดือน

19 ส.ค. 2563 | 05:24 น.

"ประวิตร" ประชุมคนป. เคาะมาตรการช่วยชาวสวนปาล์ม เดินหน้าประกันรายได้ ก.ก.ละ 4 บาท ต่ออีก 3 เดือน พร้อมสั่งติดตามขับเคลื่อน  ผลักดันส่งออก ผลิตไฟฟ้า ส่งเสริมไบโอดีเซล รณรงค์ใช้ B10

19 สิงหาคม 2563 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (คนป.) ครั้งที่ 2/2563  โดยที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2563-2564 เพิ่มอีก 3 เดือน คือเดือน กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน 2563 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร อย่างต่อเนื่อง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

โดยกำหนดราคาเป้าหมายผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน18% ) ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ก.ก.ละ 4 บาท(เท่ากับโครงการปี 62-63) และเห็นชอบโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินออกไปต่างประเทศ และดึงราคาผลปาล์มให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าส่งออก300,000 ตันน้ำมันปาล์มดิบ ภายใน มกราคม 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่ประชุมยัง ได้รับทราบสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มในภาพรวมทั้งด้านการผลิต ,ด้านการตลาด และด้านพลังงานทดแทน  อยู่ในภาวะชะลอตัวเนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 และรับทราบความคืบหน้าโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต๊อกน้ำมันปาล์ม ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการให้ทันปีงบประมาณ 2563 สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันปี 2562-2563 โดย ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินชดเชยแล้วตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 14 สิงหาคม 2563  รวม 9 งวด จำนวน 375,202 ครัวเรือน เป็นวงเงิน 6,729.57 ล้านบาท

พล.อ.ประวิตร  ได้กำชับ คนป.ให้กำกับ ติดตาม ขับเคลื่อนการดำเนินงาน อย่างใกล้ชิด  ต่อเนื่อง  เน้นย้ำให้ กษ.,พณ.,พน. และ กฟผ. ดำเนินการตามแผนงานโครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบแล้วภายใต้ คนป.ตามกรอบเวลา พร้อมทั้งมีการประเมินผลงานเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยเร่งรัดให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ทั้งการส่งเสริมการผลิต/การตลาด และการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร  ยังได้รณรงค์ขอให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน หันมาใช้น้ำมันดีเซลB10 ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมมาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม ให้ได้อย่างยั่งยืน ต่อไป