อุตฯไทยนำร่องผลิต ชุด PPE ใช้ซ้ำ พร้อมส่งออกทั่วโลก

20 พ.ค. 2563 | 09:35 น.

อุตสาหกรรมไทย นำร่องผลิต ชุด PPE ใช้ซ้ำ แบบเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำผ่านการรับรองมาตรฐาน สาธารณสุข ชี้ผู้ประกอบการพร้อมปรับกำลังการผลิตเพื่อส่งออก

นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา เลขานุการคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาด COVID-19 ภายใต้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ COVID-19 ภาคอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯชุดดังกล่าวนี้ขึ้นเพื่อดูแลผลกระทบทางด้านต่างๆที่เกิดขึ้นจากไวรัส "โควิด-19"

              ทั้งนี้ ภารกิจหนึ่งที่สำคัญก็คือ การรวบรวมสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 ที่มีมาตราฐานมั่นใจได้ ให้กับคู่ค้าที่ต้องการผ่าน FTI e-Business โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการไทย 15 ราย ที่สามารถผลิต "ชุด PPE" แบบเสื้อคลุม แขนยาวกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) รุ่นเราสู้ และผ่านการรับรองมาตรฐานทางสาธารณสุข และได้รับการจัดซื้อโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย เตรียมพร้อมส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้

อุตฯไทยนำร่องผลิต ชุด PPE ใช้ซ้ำ พร้อมส่งออกทั่วโลก

สำหรับชุด PPE ใช้ซ้ำได้นี้ เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในระดับความเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง การทำหัตถการที่มีเลือดกระเด็นใส่เล็กน้อย การใช้ในห้องปฏิบัติการ หรือสำหรับแพทย์และเจ้าหน้าที่ซักประวัติ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจในการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อเชิงรุกในชุมชน
 

ด้านคุณสมบัติและมาตรฐาน ชุด PPE ที่ผลิตนั้นได้ผ่านมาตรฐาน AAMI PB70 LEVEL2 โดยการทดสอบของสถาบันสิ่งทอ (THTI) และผ่านมาตรฐานสาธารณสุข โดยมีคุณสมบัติกันน้ำได้ตามมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ANSI/AAMI PB70 Level 2  ซึ่งแสดงผลความสามารถต้านการซึมผ่านของน้ำที่มีแรงดัน (Hydrostatic Pressure) AATCC 127 > 20 cm.-H2O และผ่านการทดสอบการทะลุผ่านของน้ำ (Water Penetration) AATCC 42 < 1.0g และระบายอากาศได้ดี

อุตฯไทยนำร่องผลิต ชุด PPE ใช้ซ้ำ พร้อมส่งออกทั่วโลก

นอกจากนี้ ชุด PPE ยังสามารถซักฆ่าเชื้อทำความสะอาด และใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง โดยการซักด้วยสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ (Sodium Hypochlorite 0.1%) และอบร้อน แต่ห้ามใช้กับน้ำยาปรับผ้านุ่ม

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย 15 บริษัท ที่ผลิตชุด PPE ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งทางองค์การเภสัชกรรมได้มีการจัดซื้อจัดจ้างชุด PPE แล้ว โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบองค์การเภสัชกรรม 44,000 ชุดเสร็จเสร็จสิ้นในเดือนนี้ ผู้ประกอบการพร้อมปรับกำลังผลิตเพื่อรองรับการระบาดรอบสอง หรือ นำส่งออกให้ประเทศที่ยังมีการระบาดหนักอยู่ โดยมีกำลังผลิตใน 4 เดือน นี้กว่า 1,000,000 ชุด

“ในอนาคตสิ่งที่สังคมต้องการคือมาตรฐานทางสาธารณสุขที่ดีขึ้น เพื่อการปกป้องจากการระบาดของโรคต่างๆ ที่อาจจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าครั้งนี้  โดยความสำเร็จในการพัฒนาชุด PPE รุ่นเราสู้ ที่ถูกนำไปใช้ในแวดวงการแพทย์ในขณะนี้ จะเป็นต้นแบบและการขยายผลสำหรับการพัฒนาชุดต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ภาคบริการที่ผู้ให้บริการต้องมีชุดที่สามารถทำความสะอาดได้รวดเร็ว ทันทีและสะดวก เพื่อให้ทั้งผู้ที่ให้บริการ และผู้รับบริการมีความมั่นใจว่ามีความปลอดภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นการยกระดับด้านสุขอนามัยของประเทศไทย”