แหล่งข่าวสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากกรณีความไม่พอใจของสมาชิกผู้เลี้ยงไก่ไข่ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการออกมาไม่ให้ขายไข่ไก่เกินราคานั้น นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ได้ส่งสารผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ว่าจากสถานการณ์ภาวะวิกฤติ โรคระบาดโควิด - 19 นับว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับคนไทยไม่เว้นรวยหรือจนอยู่ภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก หรือ มุมไหนของประเทศคนไทยทุกคนต้อบร่วมมือกันยามประเทศชาติลำบากเช่นนี้ทีมงานที่รับผิดชอบในการดูแลรักษา
หรือคณะแพทย์พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งหมดก็ลำบากมาก ตลอดจนรัฐบาลที่ดูแลภาพรวมทั้งหมดของคนทั้งประเทศต้องทำงานหนักมากทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคมซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันมีอะไรที่คนไทยจะช่วยกันได้ด้วยความรักความสามัคคีก็ขอให้ช่วยกันคนละมือสองมือเพื่อให้ปัญหาเรื่องโรคระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันให้ระงับยับยั้งหยุดแพร่ระบาดให้จงได้
“ในส่วนของพวกเราคนเลี้ยงไก่ไข่ขอให้ช่วงระยะเวลานี้ได้ประคับประคองตลาดราคาหน้าฟาร์มตามราคาประกาศของสมาคมฯ ไปพลางก่อนเพื่อให้คนไทยได้มั่นใจว่ามีไข่กินแน่นอนและอีกด้านก็ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้คนที่ค้ากำไรเกินควรได้เห็นแก่คนไทยด้วยกันให้ค้ากำไรให้เหมาะสมและร่วมมือกับทางราชการด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีและมีคุณต่อสังคมไทยด้วยกัน”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า “ฟาร์มตกเป็นจำเลยสังคม เพราะคนที่ขายเกินราคามากๆ นั้นเป็นส่วนน้อย แต่ทำให้ฟาร์มส่วนใหญ่ ลำบากไปด้วย อีกด้านหนึ่งผู้ซื้อ ซื้อไข่ถูกมานาน (จากไข่ล้นตลาดจึงมีการขายถูก ทุกฟาร์มที่ไม่มีตลาดรองรับ เพราะไก่ยืนกรงมีมากกว่า 60 ล้านตัว) ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะไม่มีโรคระบาด
เชื่อมั่นว่าราคาไข่ไก่จะสถานการ์ณดีขึ้นอยู่แล้วจากที่กรมปศุสัตว์ขอความร่วมมือให้ 16 บริษัทผู้นำเข้าพ่อแม่ไก่พันธุ์ และฟาร์มไก่รายใหญ่ ถึง กลาง ก็ช่วยกันส่งออกและปลดไก่ ซึ่งใช้ระยะเวลามา 2 ปี ทำให้ไก่ยืนกรง เหลือ ไกล้เคียงกับ ความต้องการตลาด ส่งผลให้ไข่ส่วนเกินไม่เหลือมากนัก
“ความจริงขาดทุนกันมาตลอดฟาร์มใหญ่ขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้นโดยไม่มีตลาดรองรับก็ต้องทำการตลาดโดยการดั้มราคาขายออกมาราคาต่ำกว่าต้นทุน แต่พอราคาจะขอปรับเพิ่มก็ไม่ได้มาโดนพาณิชย์จับขายไข่แพงเกินไปซ้ำเดิมคนไทย ก็เห็นด้วย แต่สิ่งที่เราอยากได้นับจากนี้ ก็คือการขายไข่ต่ำกว่าราคาต้นทุนพาณิชย์ต้องจับด้วยเช่นกัน"