ผงะ! ที่ดินสวนยาง กยท. 4,600 ไร่หลุดมือแล้ว ผู้ว่าฯ เมืองคอน สั่งเดินหน้าต่อตั้งคณะอนุกลั่นกรองผู้จะเข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ป่ากรุงหยัน ขีดเส้น 45 วันให้แล้วเสร็จ สหภาพฯ ค้านหัวชนฝา ย้ายคนเข้ามาสวมคนเดิมอยู่แล้ว
แหล่งข่าวคณะอนุกรรมการกลั่นกรองผู้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน 4,600 ไร่ ป่ากรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงคำสั่ง ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2561 ตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองผู้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน 4,600 ไร่ เพื่อทำหน้าที่ตรงจสอบรายชื่อผู้ที่จะเข้าอยู่อาศัยในการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายอำเภอทุ่งใหญ่ เป็นประธานอนุกรรมการ นั้นได้ขีดกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ขณะที่นายจิตติน วิเศษสมบัติ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ไม่ถูกต้องเนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รับเงินชดเชยไปแล้ว จะต้องหาที่อยู่ใหม่แทน เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งโรงงานและสวนยาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ กยท. และลูกจ้างกรีดยาง 123 คนได้อาศัยอยู่ที่นั้นด้วย อีกด้านหนึ่งผู้บริหารก็ได้ทำหนังสือขยายระเวลาส่งเอกสารเพิ่มเติมไปแล้ว ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องการเอกสารประกอบขออนุญาต ได้แก่ หลักฐานรายงานการประชุมที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกุแหระ และบันทึกยินยอมแก้ไขปัญหาราษฎรก็ควรจะขยายเวลาให้ตามที่ขอ
“กยท.มีหนังสือที่ กษ 2906 /0022 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สตง.) ได้เสนอแนะให้ กยท.อนุญาตให้กรมชลประทาน ใช้พื้นที่ จำนวน 3,950 ไร่ เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ โดยให้นำพื้นที่ 4,600 ไร่มาแลกเปลี่ยน และคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด) ได้ให้ความเห็นชอบที่จะใช้พื้นที่ 4,600 ไร่ เพื่อปลูกสร้างสวนยาง ของ กยท.อยู่ระหว่างดำเนินการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
แต่ถ้าหาก กยท.โดนยึดที่สวนดังกล่าว บวกกับพื้นที่อนุญาตให้กรมชลประทานพ่วงไป เท่ากับ กยท.จะต้องสูญที่ดิน 8,550 ไร่ ทางสหภาพฯขอคัดค้านไม่ยอมแน่นอน และ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกับนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ ผู้ว่าการ กยท. ไปให้กำลังใจพนักงาน แล้วสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ให้ใครมาหาผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวได้เด็ดขาด