เตือนแรงงานไทยคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์      

02 ส.ค. 2559 | 04:30 น.
กรมการจัดหางาน ประกาศเตือนแรงงานไทยที่ประสงค์ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนนี้ ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเนื่องจากเป็นงานหนักมีความเสี่ยงต้องทำงานภายใต้สภาพอากาศที่เย็นจัด พื้นที่ลาดชันเป็นภูเขา รายได้ไม่แน่นอน และอย่าหลงเชื่อผู้ชักชวนว่าสามารถช่วยเหลือให้ไปทำงานได้ เนื่องจากการพิจารณาวีซ่าเป็นอำนาจของทางการสวีเดนและฟินแลนด์ อาจถูกหลอกเสียเงินฟรี

นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บผลไม้ป่า ในประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งมีประชาชนสนใจเดินทางไปทำงานกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงอาจเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีชักชวนไปทำงานโดยอ้างว่ามีรายได้ดีและเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูงกว่ากำหนดได้  เพื่อเป็นการป้องกันมิให้คนหางานเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงจ่ายเงินแล้วไม่ได้เดินทางหรือเดินทางไปแล้วไม่ได้ทำงานตามที่ประสงค์ กรมการจัดหางานจึงขอแจ้งเตือนคนหางานว่าการไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและฟินแลนด์นั้น เป็นงานที่หนักและเสี่ยงอันตราย เนื่องจากผลไม้ป่าจะขึ้นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ลาดชันเป็นภูเขา บางครั้งต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลในท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด และบางครั้งมีปัญหาอากาศแปรปรวนทำให้ผลไม้มีจำนวนน้อย ไม่สามารถเก็บมาขายได้ตามจำนวนที่ต้องการ ทำให้มีรายได้ไม่แน่นอน อีกทั้งยังต้องถูกหักค่าใช้จ่ายจากรายได้ที่ได้จากการทำงานอีกประมาณวันละ 1,000 บาท เพื่อเป็นค่าที่พัก ค่าเช่ารถยนต์ ค่าอาหาร ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และอื่นๆ ซึ่งต้องเก็บผลเบอร์รี่ให้ได้มากกว่า 50 กิโลกรัมต่อวัน จึงจะคุ้มค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ในสวีเดนและฟินแลนด์

ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการเก็บผลไม้และมีร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น นอกจากนี้ อำนาจในการพิจารณาวีซ่าเป็นของทางการสวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ไม่สามารถรับรองได้ว่าผู้ยื่นขอวีซ่าจะผ่านการพิจารณาทุกคนหากมีการสมัครไปทำงานกันเป็นจำนวนมาก  ซึ่งหากไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าก็ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้  โดยในปีนี้ประเทศสวีเดนกำหนดโควตาคนงานเก็บผลไม้จำนวน 3,327 คน ซึ่งขณะนี้ครบจำนวนแล้ว ส่วนประเทศฟินแลนด์กำหนดโควตาจำนวน 3,503 คน

ขณะนี้รับแจ้งยอดแล้วจำนวน 1,861 คน  สำหรับผลไม้ที่นิยมเก็บมี 3 ชนิดคือ ยู่ตรอน บลูเบอรี่ และลินง่อน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศสวีเดนรวมแล้วไม่เกินคนละ 75,000 บาท  ประเทศฟินแลนด์จำนวนคนละ 65,000 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง เช่น ค่าวีซ่า ค่าเดินทางภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ค่าประกันต่างๆ เป็นต้น จึงขอให้คนหางานศึกษาข้อมูลการทำงานให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเดินทาง

นายอารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนจะดำเนินการในรูปแบบนายจ้างพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศขณะที่ฟินแลนด์จะดำเนินการในรูปแบบการแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง  โดยจะมีหนังสือเชิญจากบริษัทที่รับซื้อผลไม้ป่าในต่างประเทศ ซึ่งคนงานไม่ต้องเสียภาษีใดๆ มีระยะเวลา ในการทำงานอยู่ในช่วงประมาณ 60-75 วัน  ซึ่งในปี 2558 ที่ผ่านมาคนงานไทยที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนมีรายได้เฉลี่ยคงเหลือประมาณ 105,400 บาท ประเทศฟินแลนด์มีรายได้เฉลี่ยคงเหลือประมาณ 100,000 บาท มีรายได้ส่งกลับประเทศโดยรวม 297,562,399 บาท และในปี 2559 นี้หากสถานการณ์การเก็บผลไม้ป่าอยู่ในเกณฑ์ดีคาดว่าคนงานไทยจะมีรายได้เฉลี่ยคงเหลือจำนวนคนละประมาณ 100,000-130,000 บาท