ACT ต้าน“พปชร.”แก้รธน.เปิดทางให้คดโกงงบประมาณประเทศ

20 มิ.ย. 2564 | 10:36 น.

ACT ออกแถลงการณ์คัดค้านการ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดทางให้เกิดการคดโกงงบประมาณของประเทศ จากกรณีจะให้ ส.ส.สอดแทรก-ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของ ขรก.ได้

วันที่ 20 มิถุนายน 2564  องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ เรื่อง คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้เกิดการคดโกงงบประมาณของประเทศ  โดยเนื้อหาระบุว่า

ตามที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ให้ตัดบทลงโทษ ส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการที่แทรกแซง การจัดทำงบประมาณประจำปี ตามมาตรา 144 และ ตัดข้อห้ามมิให้ ส.ส. และ ส.ว. แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ตามมาตรา 185 นั้น

ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า การแก้ไขดังกล่าวจะทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศล้มเหลว เพราะการตัดบทลงโทษดังกล่าวเปิดโอกาสให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถสอดแทรก-ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่เป็นฝ่ายบริหารได้โดยง่าย ซึ่งจากที่ผ่านมา งบประมาณแผ่นดินได้ถูกจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรม มีการคดโกงเกิดขึ้นอย่างมากมายจากการสอดแทรกใช้อำนาจหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง 

 

การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นขอ นอกจากจะเปิดทางให้เกิดการคดโกงแล้ว ยังขัดต่อหลักธรรมาภิบาลและการมีผลประโยชน์ทับซ้อนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่ 

การต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชันต้องชัดเจนทั้งหลักการและวิธีการ การมีมาตรการที่ครอบคลุม ปฏิบัติได้จริงจังจึงจะพิสูจน์ความเป็น “รัฐธรรมนูญปราบโกง” และวาระแห่งชาติในการต่อต้านคอร์รัปชันได้ การลดทอนให้เหลือเพียงหลักการลอยๆ ไม่มีแนวปฏิบัติปราศจากบทลงโทษ แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจเด็ดขาดในการปราบปรามคอร์รัปชัน ทำให้คนโกงย่ามใจ คนไทยทั้งชาติอยู่ในสภาวะของการ “จำยอมกับการโกงของผู้มีอำนาจ” อีกครั้งหนึ่ง
                                               ACT ต้าน“พปชร.”แก้รธน.เปิดทางให้คดโกงงบประมาณประเทศ

คนไทยต้องการเห็นการเมืองที่สูงด้วยจริยธรรม ต้องการรัฐธรรมนูญที่ศักดิ์สิทธิ์จริงใจ ต้องการเห็นประเทศชาติ มีการพัฒนาอย่างโปร่งใสเป็นธรรม และที่สำคัญ ต้องการหลุดพ้นจากวงเวียนการคดโกงของนักการเมือง ข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ทั้งสองประการดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ 

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันขอคัดค้านการเสนอแก้ไขรัฐธรรมทั้งสองมาตราดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และขอเชิญชวนให้ประชาชน สื่อมวลชน และทุกภาคส่วนของสังคม ร่วมผนึกกำลังในการต่อต้านครั้งนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับงบประมาณแผ่นดินและผลกระทบที่เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :