ในปี2563 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับหลายธุรกิจจากวิกฤตโควิด 19 โดยเฉพาะธุรกิจเครื่องดื่มเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มูลค่า 3.7 แสนล้านบาทที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากมาตราการปิดห้าง ผับ บาร์ ร้านอาหารในหลายๆประเทศ
นายธีรภัทร์ พงศ์เมธี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกตลาดเบียร์เติบโตลดลงเป็นตัวเลข 2หลัก เนื่องจากกฎหมายของประเทศในภาวะโควิด ที่กำหนดให้ปิดร้านอาหาร ผับ บาร์ ทำให้ยอดขายลดลงมากพอสมควร
สำหรับไฮเนเก้น ยังคงมีความแข็งแรงในเรื่องของความเป็นแบรนด์พรีเมียมที่มีความ international และมีความอินโนเวทีฟ ในปี2563 ที่ผ่านมาในสถานการณ์โควิด ทำให้เกิดปรากฏการณ์ social distancing และ new normal ซึ่งต่อเนื่องมาจนถึงปัจุบัน
ทำให้การสื่อสารการตลาดของไฮเนเก้นปีนี้จะถูกดำเนินการภายใต้ 3แกนหลักคือ 1การสร้าง brand awareness อย่างต่อเนื่องกับผู้บริโภคเพื่อให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค 2 การสื่อสารแคมเปญต่างๆจะต้องสร้างความเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริโภค 3 Impact full communication เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำเราได้ตลอด
ล่าสุด ไฮเนเก้นคิกออฟแคมเปญฟุตบอลยูโร 2020 ในชื่อ “Enjoy the Rivalry” ภายใต้แนวคิด There’s Fun in the Rivalry หรือ สนุกกับการเป็นคู่แข่ง ด้วยกิจกรรมที่จะทำให้แฟนบอลได้เชียร์สนุกกับการเป็นคู่แข่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็มๆ ของการแข่งขัน
เริ่มจากการเปลี่ยนพื้นที่โฆษณาให้กลายเป็นพื้นที่เชียร์ฟุตบอลตลอดระยะเวลาการแข่งขัน พร้อมเปิดตัวแพคเกจจิ้งใหม่ Heineken UEFA EURO 2020™ ลายธงชาติของ 24 ทีมที่เข้าร่วม และกิจกรรม Enjoy the Rivalry Nights Online ตอบโจทย์พฤติกรรมการดูบอลที่เปลี่ยนไปในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ Enjoy the Rivalry เป็นโกลบอลแคมเปญที่ทางไฮเนเก้นสร้างสรรค์ขึ้นมาสำหรับการแข่งขัน UEFA EURO 2020™ โดยเฉพาะ ในฐานะเครื่องดื่มประจำการแข่งขัน UEFA EURO 2020™ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะช่วยให้การรับชมฟุตบอลยูโร 2020 นั้นเพลิดเพลินมากขึ้น และเพิ่มความสนุกสุดมันส์อีกระดับ เมื่อได้รับชมแมตช์การแข่งขันร่วมกับแฟนบอลทีมคู่แข่ง ซึ่งในยุโรปถือเป็นการฉลองให้กับโอกาสดีๆ ที่แฟนๆ จะได้กลับมาร่วมเชียร์กันอีกครั้งกับไฮเนเก้น
และยังถือเป็นการสานต่อการเป็นพันธมิตรและความสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 25 ปีระหว่างไฮเนเก้นกับการแข่งขันฟุตบอลชั้นนำของยุโรป พร้อมด้วยการมอบประสบการณ์การชมฟุตบอลที่เหนือระดับให้กับแฟนๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งต่อสัญญาในการร่วมสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลหลักๆ ของทวีปยุโรป ยาวจนถึงปี 2024
“แคมเปญ Enjoy the Rivalry ที่ไฮเนเก้นจัดขึ้นเพื่อแฟนฟุตบอลยูโร 2020 ในประเทศไทย เกิดจากข้อมูลเชิงลึก (Consumer Insight) ของกลุ่มแฟนบอล ที่ถึงแม้จะเชียร์กันคนละทีม แต่ความสนุกไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่การรวมกลุ่มกันเพื่อชมแมตช์การแข่งขัน แต่คือการเชียร์ไป บลัฟไป ระหว่างเพื่อนต่างทีม ไฮเนเก้นจึงนำข้อมูลเชิงลึกนี้ของแฟนฟุตบอลมาสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แนวคิด There’s Fun in the Rivalry หรือสนุกกับการเป็นคู่แข่ง ที่จะยกระดับความสนุกในการเขียร์ฟุตบอลยูโร 2020 ขึ้นไปอีกระดับ
นอกจากนี้ ระหว่างฟุตบอลยุโรปกับแฟนบอลชาวไทย ยังมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น ถ้าถามแฟนบอลชาวไทยว่าเชียร์ทีมชาติไหนมากที่สุดนอกเหนือจากทีมชาติไทย คำตอบ มักจะเป็นทีมชาติทางฝั่งยุโรป อย่างเช่น อังกฤษ อิตาลี สเปน เยอรมัน หรือเนเธอร์แลนด์ ดังนั้น การแข่งขันฟุตบอลยูโร จึงถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไฮเนเก้น ในการสร้างประสบการณ์สุดพรีเมี่ยมให้เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย ที่มีไลฟ์สไตล์ตั้งอยู่บนความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงกลุ่มแฟนบอลในปัจจุบันที่ครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้หญิงด้วย”
ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน จนถึง 11 กรกฎาคม 2564 แฟนฟุตบอลยูโร 2020 จะได้สนุกกับการเป็นคู่แข่งในกิจกรรมที่ไฮเนเก้นเตรียมไว้ เริ่มต้นคิกออฟด้วยการเปิดตัวแพคเกจจิ้งใหม่ สุดลิมิเต็ด เอาใจแฟนฟุตบอลยูโร 2020 โดยสัญลักษณ์ดาวแดงของไฮเนเก้นจะเปลี่ยนเป็นลายธงชาติของ 24 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมกับชื่อประเทศ และสัญลักษณ์ฟุตบอลยูโร 2020 เพื่อให้แฟนบอลได้สะสมเป็นคอลเลคชั่นแบบครบทุกทีมชาติ หรือจะเลือกเฉพาะทีมชาติที่ตัวเองชื่นชอบ
ไฮเนเก้นยังได้เตรียมพื้นที่ให้แฟนฟุตบอลได้เปล่งเสียงเชียร์ทีมของตัวเองกันให้สนั่นตั้งแต่แมตช์แรกของการแข่งขัน โดยแฟนบอลสามารถส่งข้อความเชียร์เข้ามาผ่านกิจกรรมออนไลน์ และไฮเนเก้นจะเปลี่ยนพื้นที่โฆษณาขนาดใหญ่ 80 กว่าแห่งทั่วประเทศ ด้วยการเลือกข้อความเชียร์ของแฟนบอลแต่ละทีมมาขึ้นบนป้ายโฆษณา ให้กลายเป็นพื้นที่ที่แฟนบอลทีมต่างๆ สามารถบลัฟกันให้สนุกก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในช่วงดึก
สำหรับการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย ไฮเนเก้นได้เตรียมกิจกรรมเชียร์ฟุตบอลรูปแบบใหม่ Enjoy the Rivalry Nights Online ตอบรับพฤติกรรมการดูบอลที่เปลี่ยนไปในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ถึงแม้ไม่สามารถจะรวมกลุ่มกันเชียร์ได้ แต่ก็สามารถเชียร์ให้มันส์ บลัฟกันให้สนุก ด้วยการชมการแข่งขันแบบออนไลน์ที่จะมาให้ข้อมูล วิเคราะห์เกมการแข่งขันในช่วงก่อนลงสนาม สรุปไฮไลต์ในช่วงพักครึ่ง และผลการแข่งขันในช่วงจบเกม
“อย่างที่รู้กันในส่วนของคอบอลอาจจะมีผลกระทบบ้างในมุมที่ว่าไม่มีการถ่ายทอดสด แต่ในแง่ของ กลุ่มเป้าหมายของไฮเนเก้นในช่วงที่มีแคมเปญนี้ เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อนักดื่มของไฮเนเก้น และยอดผู้ชมน่ากลับไปใกล้เคียง UEFA EURO 2016 ด้วยวิถีชีวิต Stay at home และ work from home ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้นทำให้คอบอลสามารถใช้เวลากับUEFA EURO 2020 ได้ง่ายขึ้น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง