ลำปางพร้อม!ยอดจองฉีดวัคซีนโควิดยืนหนึ่งครองแชมป์สูงสุดตจว.

11 พ.ค. 2564 | 12:10 น.

โซเซียลแชร์สนั่นชมผู้ว่าฯหมูป่า หลังยอดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดลำปางยืนหนึ่งแชมป์ต่างจังหวัด ด้านนายกฯชมเปาะการมีส่วนร่วมในพื้นที่ดีเยี่ยม

หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ของทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ที่เริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเปิดให้จองสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง (1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด 3. โรคไตวายเรื้อรัง 4. โรคหลอดเลือดสมอง 5. โรคอ้วน 6. โรคมะเร็ง 7. โรคเบาหวาน)


โดยข้อมูลล่าสุด (วันที่ 10 พ.ค. 64) พบว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 1.6 ล้านคน ในกรุงเทพมหานครมากกว่า 5 แสนคน ตามด้วยจังหวัดลำปางมากกว่า 2 แสนคน (ซึ่งมีการลงทะเบียนมากที่สุดในประเทศหากนับตามสัดส่วนประชากร) 

 

การลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ของทั้ง 77 จังหวัด

สำหรับตัวเลขการลงทะเบียนที่พุ่งทะลุขึ้นมากว่า 2 แสนคนของจังหวัดลำปาง ส่งผลให้โซเซียลต่างมีการพูดถึงและมีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก เพราะหากเทียบกับจังหวัดอื่นๆที่มีจำนวนประชากรที่มากกว่า กลับพบว่าการลงทะเบียนยังน้อย ไม่เข้าเป้า ยกตัวอย่างจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งเป้าว่าจะมีผู้มาลงทะเบียน 6.1 แสนราย แต่ปัจจุบันมีผู้มาลงทะเบียนเพียงแค่ 4.1 หมื่นราย


เบื้องหลังเบื้องลึกการลงทะเบียนจองวัคซีนในครั้งนี้ของจังหวัดลำปาง เป็นผลมาจาก แผนบริหารจัดการภายใต้การนำของ"ผู้ว่าฯหมูป่า" นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง 


โดยผู้ว่าฯระบุว่าได้ให้หน่วยงานสาธารณสุขนำเข้าข้อมูลสุขภาพของประชาชน เข้าระบบข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจองการฉีดวัคซีนให้สอดรับกับศักยภาพของหน่วยบริการ และจองวัคซีนจากรัฐบาลให้เพียงพอกับจำนวนประชาชนของจังหวัดลำปาง


พร้อมกันนั้นได้ให้ อสม.และหมออนามัยครอบครัวเดินเท้าเคาะประตูบ้านให้ข้อมูล อธิบายเรื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทราบ และยืนยันการฉีดวัคซีน (หากปฏิเสธการฉีดวัคซีนต้องมีการลงนามยืนยันในเอกสาร) ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งความประสงค์จองการฉีดวัคซีน ได้ 2 ช่องทาง คือ การลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม , อสม./หมออนามัยครอบครัว ลงทะเบียนให้ 


ด้วยแผนบริหารจัดการดังกล่าว จึงทำให้ลำปางยืนหนึ่งในการจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ในครั้งนี้ แถมการจองในครั้งนี้ยังถือว่าครอบคลุม เพราะจากข้อมูลพบว่าลำปางเป็นเมืองสูงอายุอันดับ 1 มีผู้สูงอายุ 24% ของจำนวนประชากร โดยมีกลุ่มอายุ 60 ขึ้นลงทะเบียนประมาณ 1.9 แสนราย โรคเรื้อรัง ประมาณ 3 หมื่นราย รวม 2.2 แสนราย
 

ไม่เพียงแต่เหล่าโซเซียลทั้งหลายจะแห่แชร์เรื่องนี้ แต่ฟากฝั่งรัฐบาลนำโดย"บิ๊กตู่"ก็ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยว่า ขอชื่นชมการมีส่วนร่วมในพื้นที่อย่างดีเยี่ยม และขอขอบคุณการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ทุกจังหวัดเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น


นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวต่ออีกว่า การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ทั้งการจัดหาและการกระจายวัคซีนแก่ประชาชน เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศไทย จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ 


ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนที่จัดหาโดยรัฐบาลทุกชนิดมีการตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยมีการฉีดวัคซีนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกกว่า 10 ล้านคน รวมถึงผู้นำในหลายประเทศด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายประเทศยืนยันว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกชนิดสามารถป้องกันการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ


พร้อมป้องกันการเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้เกือบร้อยละร้อย และอัตราการเกิดผลข้างเคียงมีน้อยมากหากเปรียบเทียบกับโอกาสในการติดเชื้อ และโอกาสเสียชีวิตจากการติดเชื้อสูงกว่าการเสียชีวิตจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และในการฉีดวัคซีนแต่ละครั้ง จะมีแพทย์ประเมินความเหมาะสมและเฝ้าดูอาการหลังการฉีดอีกด้วย 


"นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างก็เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วและยังไม่พบผู้ได้รับผลข้างเคียง"