ในด้านการผลิต การฟื้นตัวของภาคการผลิตในจีนซึ่งล่าช้ากว่าการบริโภคในช่วงปีก่อน มีแนวโน้มดีขึ้นมาก โดยมูลค่าเพิ่มของภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 24.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
การผลิตสินค้าไฮเทคเติบโตถึง 31.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ขยายตัวเฉลี่ยของสองปีอยู่ที่ 12.3% ขณะที่มูลค่าเพิ่มการผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ขยายตัวถึง 39.9% ซึ่งเท่ากับเติบโตในช่วงไตรมาสแรกเฉลี่ยสองปีอยู่ที่ 9.7%
ที่น่าสนใจก็คือ โครงสร้างการผลิตของจีนกำลังปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียวมากขึ้น กลุ่มสินค้าคาร์บอนต่ำอัจฉริยะ (Smart Low-Carbon Products) เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผลผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วและอุปกรณ์พลังงานรูปแบบใหม่ เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวเป็นเฉลี่ยถึงกว่า 73% ในช่วงสองปี
สินค้ากลุ่มนี้อยู่ในหมวดที่เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่จีนตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศคาร์บอนฟรีภายในปี 2060 หรืออีกไม่ถึง 40 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่า การเดินทางไกลอีกครั้งของจีนจึงไม่เพียงจะเกิดขึ้นในมิติด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จะอยู่บนพื้นฐานของสังคมสีเขียวอีกด้วย
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (ไม่รวมเกษตรกรรม) ก็เพิ่มขึ้น 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคในช่วงไตรมาสแรกของปี ขยายตัวแรงถึง 37.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยสองปีอยู่ที่ 9.9%
นอกจากนี้ ประสบการณ์จากวิกฤติโควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ทำให้คนจีนต่างมองหาที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จากสถิติในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 และขยายตัวออกไปในหลายเมือง จนมีกระแสข่าวว่า แบงก์ชาติจีนเตรียมกระโดดเข้ามาคุมเข้มสินเชื่อในด้านนี้ เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน และป้องกันปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกัน ยอดขายวัสดุก่อสร้าง อาทิ เหล็ก และ เครื่องมือหนัก เช่น รถขุด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ก็เพิ่มขึ้นถึง 85% เมื่อเทียบกับของช่วงเดียวกันของปีก่อน
สัญญาณที่ดีอีกประการหนึ่ง ก็คือ แรงเสริมจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรป เมื่อปลายปี 2020 สหภาพยุโรป-จีนได้ลงนามความตกลงด้านการลงทุนที่รอบด้าน (Comprehensive Agreement on Investment) ระหว่างกัน ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นกลไกสำคัญที่ดึงเอาสองเขตเศรษฐกิจใหญ่ของโลกเข้าใกล้กันมากขึ้น และอาจจะเปลี่ยนภูมิเศรษฐกิจระหว่างประเทศในอนาคต
ขณะเดียวกัน มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนโดยรวมเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 38.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ภาคการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจของจีนหยุดชะงักอันเนื่องจากวิกฤติโควิด-19
การขยายตัวของการส่งออกดังกล่าวในด้านหนึ่งสะท้อนว่า ภาคการผลิตของจีนมีความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และเหนียวแน่น และในทางกลับกันก็อาจเป็นเพราะห่วงโซ่อุปทานในหลายประเทศของโลกยังคงขาดวิ่น และไม่สามารถกลับมาผลิตสินค้าหลายอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การส่งออกในหมวดสินค้าสิ่งทอและอิเล็กทรอนิกส์ของจีนเติบโตแรงอยู่ต่อไป สภาพการณ์ดังกล่าวทำให้จีนได้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากาก N95 และชุด PPE รวมทั้งวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้อนตลาดโลก
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทำงานที่บ้านมากขึ้นของชาวโลก ก็ยังทำให้ความต้องการคอมพิวเตอร์แบบพกพาเพิ่มขึ้นมาก เมื่อผนวกกับอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัว อันเนื่องจากความนิยมในการลงทุนในเงินคริปโต ก็ทำให้ชาวจีนต่างต้องการอัพเกรดฮาร์ดดิสก์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญเหล่านี้ขาดตลาดเลยก็มี
ในช่วงไตรมาสแรกนี้ การส่งออกของจีนไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรปยังคงขยายตัว ส่งผลให้จีนรักษาโมเมนตัมของการเกินดุลการค้าจากปีก่อนเอาไว้ได้ต่อไป หลังจากที่ก้าวขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับแรกกับหลายภูมิภาคในปีก่อน อาทิ ยุโรป และอาเซียน แทนคู่ค้าเดิมอย่างสหรัฐฯ
แม้ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มต้นได้ดีในไตรมาสแรกของปี 2021 แต่การเติบโตก็มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสะท้อนภาพที่แท้จริงมากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปี ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมือง สงคราม และการแซงชั่นทางการค้าจากสหรัฐฯ และ พันธมิตร
เราต้องตามไปดูกันว่า เครื่องยนต์เศรษฐกิจอย่างภาคการผลิต และการส่งออกจะยังคงเปี่ยมไปด้วยพลังอยู่ต่อไปหรือไม่ จีนต้องใช้การลงทุนของภาครัฐมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากน้อยขนาดไหน หรือจะยึดแนวทางการสร้างภาคการบริโภคภายในประเทศให้กลายเป็นพระเอกใหม่ อย่างไร
อย่างไรก็ดี เพียงแค่เริ่มต้นไตรมาสแรกของปี 2021 ดูเหมือนวัวจีนจะยึดคติ “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” ไว้ได้อย่างแท้จริง ...
เกี่ยวกับผุ้เชียน : ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน
หน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,677 วันที่ 9 - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เศรษฐกิจจีนในปี 2021 โตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ (1)