ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบ มีแรงขายจากความกังวลหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ ระบุว่าอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงเกินไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และค้าปลีก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาสูงกว่า 2,000 รายต่อวัน และกลุ่มธนาคารกังวลผลกระทบหากภาครัฐขยายมาตรการพักหนี้ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่1,555.01 จุด ลดลง 28.12 จุด หรือ 1.78% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73,605.83 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่1,583.27 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,551.46 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
KBANK ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 5.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,971.84 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 39.75 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,246.91 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,770.00 ล้านบาท
RCL ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,750.53 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,685.81 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
DELTA ปิดที่ 320.00 บาท ลดลง 34.00 บาท มีผลต่อดัชนี -3.732 จุด
AOT ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี -1.8856 จุด
CPALL ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 2.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.581 จุด
SCB ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 4.50 บาท มีผลต่อดัชนี -1.3446 จุด
KBANK ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 5.50 บาท มีผลต่อดัชนี -1.1467 จุด