ปกปิดไทม์ไลน์(แก้ไข) หมอชนะ+ไทยชนะ รัฐบาลไม่ชนะ

จากกรณีที่มีภาพ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งพนมมือโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ยอมรับแล้วว่าเป็นรูปภาพจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าโฆษกพรรคจะออกมาแก้ตัวแล้วว่าถอดหน้ากากอนามัยแค่แป๊บเดียวตอนดื่มน้ำ แต่ภาพฟ้องชัดเจน

และจากกรณีภาพ บนเครื่องบิน MJets ที่มี คุณอนุทินและคุณศักดิ์สยาม นั่งอยู่ด้วยกัน จะสามารถเชื่อมโยงไปยัง Timeline ของคุณศักดิ์สยามที่เขียนว่าเหตุการณ์วันทำบุญพรรคตอนเช้า แล้วขึ้นเครื่องบินไปยังบุรีรัมย์ ได้หรือไม่? ซึ่งเป็นเครื่องบินของคุณอนุทิน แต่ทางพรรคภูมิใจไทยอาจจะแก้ตัวว่าได้ว่าภาพนี้เป็นรูปภาพเก่าก็เป็นไปได้

แต่สิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นคือ Timeline ของคุณศักดิ์สยาม ที่ชี้แจงกับ สสจ. ซึ่งสสจ.เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดที่คุณอนุทินดูแล เป็นสสจ.บุรีรัมย์ด้วย สสจ.บุรีรัมย์ได้ชี้แจงรอบแรกเกี่ยวกับที่คุณศักดิ์สยามติดโควิด โดยชี้แจงว่าคุณศักดิ์สยามไม่ได้ไปสถานบันเทิงทองหล่อ แต่เพราะลูกน้องคุณศักดิ์สยามซึ่งเป็นคนร่ำรวยมากไปทองหล่อ ซึ่งก็คือธุรการ จากการเรียง Timeline ของคุณศักดิ์สยาม คือตอนเช้าทำบุญพรรค ตอนสายๆบินไปที่บุรีรัมย์ คุณสยามชี้แจงว่าตอนบินไปยังไม่รู้ ตอนทำบุญตอนเช้าก็ยังไม่รู้ว่าผู้ติดตามมีคนติดเชื้อโควิด เมื่อถึงบุรีรัมย์จึงรู้ว่าผู้ติดตามติดเชื้อโควิด ซึ่งแต่ก่อนหน้านั้นคุณศักดิ์สยามไปพระราม 9 บ่อยมาก แต่เขามาชี้แจงทีหลังว่าที่ไปพระราม 9 ไม่ได้ไปตรวจเกี่ยวกับโควิค แต่ไปที่บ้านพักเขาซึ่งอยู่พระราม 9

สิ่งที่ประชาชนค้างคาใจที่สุดคือ การชี้แจงไทม์ไลน์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเนี่ยทำไมมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คุณอนุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีบอกว่าการชี้แจงไทม์ไลน์เป็นเรื่องของหมอ ต้นเหตุที่ทำให้ผู้คนไม่เชื่อคือไทม์ไลน์มีการแก้ไขหลายครั้ง เพราะจากของประชาชนทั่วไปที่ตรวจพบเชื้อโควิดหากให้ไทม์ไลน์ไปแล้วจะไม่ค่อยมีการแก้ไข และทางสาธารณสุขเองซีเรียสกับไทม์ไลน์เป็นอย่างมาก เพราะไทม์ไลน์ต้องชัดเจน ตรงไปตรงมา

สิ่งที่ สสจ.แจ้ง ว่าคุณรวิชญ์ ธุรการที่ติดเชื้อโควิค เป็นคนแพร่เชื้อออกไป ทำให้รัฐมนตรีมีความเสี่ยง รัฐมนตรีมีความเสี่ยงเพราะว่าให้คุณรวิชญ์ ไปเสิร์ฟน้ำผึ้งมะนาวที่รัฐมนตรีชอบกิน แล้วเชื้อติดจากแก้ว ทางรัฐมนตรีศักดิ์สยามบอกว่าคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เขา แต่ผมเป็นคนขอแก้ไทม์ไลน์เอง แล้วขอให้ สสจ.เขาแก้ แล้วก็มีผู้ติดตามอีก 6 คน แล้วสสจ.ยังมาขอแก้ทีหลังอีกรอบ ว่าผู้ติดตามทั้ง 6 ไม่ได้ไปในเวลาเดียวกัน เป็นที่น่าตั้งคำถามว่าทางรัฐบาลบังคับให้ประชาชนใช้สแกน QR Code ไทยชนะตามสถานที่ต่างๆที่ไป เพื่อเช็คว่าเราได้ไปในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ แต่รัฐมนตรีทำหรือไม่ เพราะหากรัฐมนตรีทำตามโดยสแกน QR Code ไทยชนะ ในทุกสถานที่ที่ไปไทม์ไลน์จะชัดเจนและจะไม่มีการแก้ไปแก้มา App หมอชนะหรือการสแกน QR Code ไทยชนะ ที่ทางรัฐบาลทำขึ้นมา โดยนายกบอกว่า ต้องให้คณะรัฐบาล คณะรัฐมนตรี โหลดทุกคน และนำมาใช้ทุกคน ไม่เช่นนั้นคนที่ผิดคือนายกรัฐมนตรี แล้วขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ทำตามแล้วจะมาให้ประชาชนทำได้อย่างไร?

จากการแพร่ระบาดรอบนี้คนที่เดือดร้อนที่สุดไม่ใช่รัฐบาล แต่คือประชาชน และการตรวจสอบไทม์ไลน์เองก็สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งมีคนทำคลิปอธิบายการดูไทม์ไลน์ผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ทำไมถึงไม่ทำ? ทำไมถึงต้องแก้ไทม์ไลน์หลายรอบ

ถ้าย้อนไปเมื่อ การปกปิดไทม์ไลน์ของดีเจมะตูม ตอนนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขของมาขู่เลยว่าถ้าปกปิดต้องติดคุก ความผิดจำคุก 4 เดือน ปรับ 40,000 แต่พอมาถึงคุณศักดิ์สยาม กลับบอกว่าไม่ใช่อาชญากรรม เขาแก้ตัวว่าไม่ได้ไป แต่ทำไมลุงตู่บอกว่ารู้แล้วว่าใครไป ส่วนลุงป้อมโดยปกติถ้าถามอะไรลุงป้อมจะตอบไม่รู้ แต่เรื่องคุณศักดิ์สยามลุงป้อมกลับรู้และยืนยันว่าคุณศักดิ์สยามไม่ได้ไปสถานบันเทิงทองหล่อ และลุงป้อมบอกเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เดี๋ยวครอบครัวเขาจะว่าเอา

ขอถามกลับไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่ารัฐมนตรีสามารถแก้ไทม์ไลน์ได้ แต่ประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ที่จะแก้ไทม์ไลน์ได้หรือไม่?