หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 7 เมษายน 2564
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม 1% หลังมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและภาคบริการของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือน มี.ค. โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. 64 ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 63 ท่ามกลางการเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ โดยได้รับแรงหนุนจากการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
+ ราคายังได้รับการสนันสนุนจากการฟื้นตัวของภาคบริการของจีนและอัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนมี.ค. โดยมีดัชนีภาคการผลิตของจีน (PMI) สำหรับเดือนมี.ค.อยู่ที่ 54.3 ซึ่งสูงกว่าเดือนก.พ.ที่ 51.5 โดยยังคงสูงกว่า 50 จุดที่แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- กลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 350,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค. และเดือน มิ.ย. จากนั้นจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 441,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค.
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. 64 ปรับเพิ่ม 300,000 บาร์เรล แตะระดับ 230.8 ล้านบาร์เรล ประกอบกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคเอเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย. เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ของโรงกลั่นในภาคตะวันตกของญี่ปุ่น
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นในไม่ช้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 59.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 62.74 ดอลลาร์/บาร์เรล