กรุงไทย ออกตราสารการเงิน 600ล้านดอลลาร์อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี

26 มี.ค. 2564 | 02:43 น.

กรุงไทย ออกตราสารการเงิน 600ล้านดอลลาร์อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี เป็นตราสารด้อยสิทธิไม่มีกำหนดชำระคืน ธนาคารสามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดเมื่อตราสารมีอายุครบ 5 ปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศ

"กรุงไทย" ประสบความสำเร็จในการออกตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสริมแกร่งโครงสร้างทางการเงิน ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศสนใจล้นหลาม 3.8เท่าของมูลค่าที่ออกและเสนอขาย

กรุงไทย ออกตราสารการเงิน 600ล้านดอลลาร์อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ธนาคารประสบความสำเร็จ ในการออกตราสารทางการเงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) ตามหลักเกณฑ์ Basel III มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี โดยเป็นตราสารด้อยสิทธิไม่มีกำหนดชำระคืน ธนาคารสามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดเมื่อตราสารมีอายุครบ 5 ปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศ โดยตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ Ba3 โดย Moody's และมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสาร ได้แก่ Citigroup, HSBC, Bank of America Securities และ Standard Chartered

 

ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะถูกนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยการออกตราสารAdditional Tier 1 ของธนาคารในครั้งนี้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างทางการเงินของธนาคารในระยะยาว เทียบเคียงกับธนาคารคู่เทียบอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การออกและเสนอขายตราสารในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเป็นอย่างดี แม้สภาวะตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศในช่วงเดือนมีนาคมจะอยู่ท่ามกลางความผันผวน อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีการประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงธนาคารไม่ได้ออกระดมทุนในตลาดทุนต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้การออกตราสารหนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

 

โดยในครั้งนี้ มีผู้ลงทุนแสดงความสนใจลงทุนในตราสารของธนาคารกว่า 3.8 เท่าของมูลค่าที่ออกในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพและลงทุนระยะยาวจากทั่วโลกจำนวน 155 ราย แบ่งตามภูมิภาคเป็นนักลงทุนในทวีปเอเชีย 74% นักลงทุนในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 16% นักลงทุนจากสหรัฐอเมริกาและอื่น ๆ อีก 10% และแบ่งตามประเภทนักลงทุน เป็นประเภทบริษัทบริหารเงินลงทุน 87% ที่เหลือเป็น private banks  บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ และธนาคารพาณิชย์

 

อนึ่ง อัตราดอกเบี้ยของตราสารที่ 4.40% ถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับตราสารประเภทเดียวกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ของไทย