สธ. ผนึก กษ. ดัน"กัญชง"เป็นพืชเศรษฐกิจ

23 มี.ค. 2564 | 09:12 น.

กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขานรับนโยบายรัฐฯผลักดันกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

จากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้เกษตรกรมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ รวมทั้งการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประชาชน 


ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ได้เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้เร่งดำเนินการเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล โดยมี “นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์และกัญชงเพื่อเศรษฐกิจ” ที่มุ่งใช้ประโยชน์กัญชงให้คุ้มค่า และกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน ปลอดภัย และเป็นไปตามกฎหมาย 


รวมถึงส่งเสริมการใช้เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนด และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาล  ในการสนับสนุนกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจประสบผลสำเร็จ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ร่วมกันหารือแนวทางการพิจารณาอนุญาต กำกับดูแลกัญชงอย่างครบวงจร 


นพ.ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการหลอกขายเมล็ดพันธุ์กัญชงให้แก่เกษตรกรรายย่อยนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนประชาชนและเกษตรกรอย่าหลงเชื่อการชักชวนดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบในการอนุญาตปลูก ผลิต นำเข้า ส่งออก และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อช่วยกลั่นกรองและเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการในการพิจารณาเห็นชอบ 
 

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า กัญชงเป็นพืชที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น  เปลือก ลำตัน เส้นใย ใช้ทำเครื่องนุ่งห่ม วัสดุก่อสร้าง เสื้อเกราะ  ช่อดอก นำมาสกัดให้ได้สาร CBD ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง เมล็ดกัญชงและน้ำมันเมล็ดกัญชง ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องสำอาง 


ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงเปิดกว้างให้กับผู้ขออนุญาตซึ่งเป็นประชาชน หรือเกษตรกร บุคคลทั่วไป หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาคเอกชน สามารถมาขออนุญาตได้ โดยผู้ประสงค์จะขออนุญาตปลูก หากพื้นที่ปลูกอยู่ในกรุงเทพฯ  สามารถยื่นขออนุญาตที่ อย. ส่วนต่างจังหวัดยื่นได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจประเมินพื้นที่ 


โดยพื้นที่ปลูกต้องมีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองของผู้ขออนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โฉนดที่ดิน สัญญาเช่าที่ดิน  และตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 ที่กฎกระทรวงกัญชงมีผลบังคับใช้ ทั่วประเทศมีผู้มายื่นขออนุญาตปลูกแล้วจำนวนทั้งสิ้น 18 ราย พื้นที่ประมาณ 900 ไร่ โดยมีทั้งเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการภาคเอกชน
 

ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเข้ามาดูแลในเรื่องความเสี่ยงของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องเกษตรกร โดยจะเข้ามาดูแลตั้งแต่เรื่องมาตรฐานของเมล็ดพันธุ์กัญชง ทั้งในส่วนของผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายและผู้ปลูก การวิจัยสายพันธุ์ที่เหมาะสม


รวมถึงการให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับระบบการเพาะปลูกที่มีความเหมาะสมในแต่ละสภาพพื้นที่ การดูแลรักษาในระหว่างการปลูก ตลอดจนการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการอนุญาตการปลูกกัญชา ซึ่งกรมฯจะทำหน้าที่ประเมินความเหมาะสมในเบื้องต้นแล้วส่งต่อให้กับคณะกรรมการในระดับจังหวัดพิจารณา 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง