SPRC ขาดทุนกว่า 6 พันล้านบาทปี 63 งดจ่ายปันผล

19 ก.พ. 2564 | 12:48 น.

SPRC ขาดทุนกว่า 6 พันล้านบาท งดจ่ายปันผล เหตุราคาน้ำมันลดลงมาในไตรมาสแรก

นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยผลดำเนินงานและผลประกอบการทางด้านการเงินไตรมาสที่ 4/63 และของทั้งปี 63 ว่า ไตรมาสที่ 4/63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 862 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/63 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 268 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าการกลั่นตลาดของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 1.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 3/63 เป็น 3.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 4/63 เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเลือกใช้น้ำมันดิบที่เหมาะสมและการปรับสัดส่วนการผลิตให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างของราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ต่ำ และความต้องการการบริโภคน้ำมันจากทั่วโลกที่ลดลง ซึ่งทำให้บริษัทฯ ต้องปรับลดกำลังการผลิตไปยังจุดที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอย่างเหมาะสมที่สุด

ทิโมธี อลัน พอตเตอร์

สำหรับภาพรวมปี 63 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิรวม 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 62 ขาดทุนสุทธิรวม 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.8 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมากในไตรมาสแรก ส่งผลให้เกิดค่าการกลั่นทางบัญชีติดลบขาดทุนจากราคาสต๊อกน้ำมันรวมถึงค่าการกลั่นตลาดลดลงอยู่ที่ 2.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (Covid-19

ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการทำงานโดยปราศจากอุบัติการณ์ การบาดเจ็บและการติดเชื้อ (incident, injury and infection free) ทั้งยังเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการกระแสเงินสดผ่านการจัดการสินค้าคงเหลือ การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต พร้อมกับให้ความสำคัญด้านความเชื่อถือได้ของโรงกลั่นน้ำมัน

              อย่างไรก็ดี ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/64 มีมติให้งดจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เนื่องจากการขาดทุนสุทธิ

นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งดำเนินการเพิ่มศักยภาพในกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุด ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มกระแสเงินสดได้มากถึง 83.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2564 เรายังคงมุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและโครงการเพิ่มกระแสเงินสดรวมถึงการเดินหน้าศึกษาโอกาสการลงทุนในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :