“ศรีสุวรรณ”ยื่นกทม.เอาผิดม็อบ 13 กุมภาฯ ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ

15 ก.พ. 2564 | 05:03 น.

"ศรีสุวรรณ"ยื่นกทม.เอาผิดม็อบราษฎรชุมนุม 13 กุมภาฯ ทั้งคดีแพ่ง-อาญา ฐานทำลายทรัพย์สินสาธารณะ โทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

วันที่ 15 ก.พ.64 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ กทม. เพื่อเอาผิดการชุมนุมกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่มีกลุ่มการเมือง ในนามกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎร นำโดย นายภานุพงษ์ จาดนอก นายอรรถพล บัวพัฒน์ นายปิยรัฐ จงเทพ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ฯลฯ ได้จัดชุมนุมสาธารณะขึ้นอย่างผิดกฎหมายในวันที่ 13 ก.พ.2564 ที่ผ่านมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โดยได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหลายประการ และหลายฉบับ การบุกรุกเข้าใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยดังกล่าว ยังได้มีการรื้อถอนทำลายทรัพย์สินของทาง กทม. คือ ไม้ดอกไม้ประดับ

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กทม.ได้ตกแต่งประดับไว้ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้สวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่ง กทม.ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีของประชาชนไปในการปลูก บำรุงรักษา และประดับ ซึ่งรวมมูลค่าแล้วน่าจะหลายแสนบาท จึงมีความผิดหลายมาตรา อาทิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ที่บัญญัติความว่า “ผู้ใดทําให้เสียหาย ทําลายทําให้เสื่อมค่าหรือทําให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”

                                                        ยื่น กทม.เอาผิดม็อบราษฎร

กรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องเรียนผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้เร่งสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่เป็นผู้ที่สั่งการ หรือร่วมกระทำการดังกล่าว ดังนี้

1.สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างใดๆ เพื่อตรวจสอบความเสียหายของไม้ดอกและไม้ประดับรวมทั้งทรัพย์สินอื่นใดของกรุงเทพมหานคร ในบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่เสียหาย จากเหตุดังกล่าวว่ามีความเสียหายประเมินแล้วเป็นมูลค่าออกมาเท่าใด และอย่างไร เพื่อนำไปกำหนดเป็นค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป

2.สั่งการหรือมอบหมายให้นิติกรหรือฝ่ายกฎหมายหรือสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าดำเนินการแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคล และหรือกลุ่มบุคคล ในนามกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎรทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เพื่อดำเนินคดีต่อไปให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความด้วยกรณีใดๆ