นอร์เวย์ ดับ 29 ราย เหตุฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

17 ม.ค. 2564 | 03:58 น.

นอร์เวย์ เผยพบ 29 ราย เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เตือนผู้สูงอายุและผู้ป่วยรุนแรง แพ้วัคซีนหนัก ด้านบริษัท ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เร่งหาสาเหตุการเสียชีวิต

สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา  ทางการนอร์เวย์เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ และ ไบโอเอ็นเทค มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อน เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนตัวนี้เพิ่มเป็น 29 ศพนั้น  เบื้องต้นจดหมายที่สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ ตอบคำถามของ บลูมเบิร์ก เมื่อวันเสาร์ ระบุว่า จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเพียงวัคซีนที่ร่วมกันพัฒนาโดย ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทคเท่านั้น ที่มีใช้ในนอร์เวย์ ดังกล่าว การเสียชีวิตทั้งหมดจึงมีส่วนเชื่อมโยงกับวัคซีนชนิดนี้

 

 

ล่าสุดนอร์เวย์พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 6 รายในวันเสาร์ โดยลดอายุของกลุ่มที่เชื่อว่าได้รับผลกระทบลงจาก 80 ปี ไปอยู่ที่ 75 ปี โดยตอนนี้ทางการยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การเสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใดบ้าง แต่นอร์เวย์ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ให้กับประชาชนแล้ว 42,000 คน โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้มีความเสี่ยงสัมผัสกับไวรัส รวมทั้งผู้สูงอายุ

 

 

ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว และเราทราบว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 16 รายที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ระบุ และเสริมว่า การเสียชีวิตทั้งหมดที่มีรายงาน เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติพื้นฐานขั้นรุนแรง และส่วนใหญ่เกิดผลข้างเคียงตามที่คาดว่าวัคซีนจะทำให้เกิด เช่น เวียนหัว, อาเจียน, มีไข้, เกิดปฏิกิริยาที่จุดฉีด และทำให้โรคประจำตัวมีอาการหนักขึ้น

 

 

ปัจจุบันมีจำนวนรายงานการแพ้วัคซีนยังถือว่าต่ำ ในขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ กำลังเร่งกระจายวัคซีน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น ที่สหรัฐฯ เจ้าหน้าที่รายงานพบกรณีการแพ้ยารุนแรง 21 กรณี ในช่วงวันที่ 14-23 ธ.ค. 2563 หลังจากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์โดสแรกให้ประชาชนราว 1.9 ล้านคน ขณะที่รายงานความปลอดภัยของวัคซีนไฟเซอร์ในยุโรป จะเผยแพร่ช่วงสิ้นเดือนมกราคมนี้  ขณะเดียวกันการค้นพบล่าสุดทำให้สถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์ ออกมาเตือนว่า วัคซีนต้านของโควิด-19 ของไฟเซอร์ อาจเสี่ยงเกินไปที่จะฉีดให้กับผู้ที่อายุมาก และผู้ป่วยรุนแรง สำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอที่สุด กระทั่งแพ้วัคซีนเพียงเล็กน้อย ก็อาจเกิดผลที่ตามมาร้ายแรง สำหรับผู้ที่มีช่วงชีวิตที่เหลือสั้นมากอยู่แล้ว ประโยชน์จากวัคซีนอาจเล็กน้อย หรือไม่มีเลย

 

 

อย่างไรก็ตาม นาง เอเมอร์ คุค (Emer Cooke) หัวหน้าสำนักงานการแพทย์ยุโรป กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในนอร์เวย์ไม่ได้หมายความว่า คนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แต่เป็นข้อบ่งชี้ถึงสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในระยะแรก ในขณะที่หลายประเทศเริ่มออกรายงานด้านความปลอดภัย

 

 

 

ด้านบริษัท ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทค เผยว่า พวกเขากำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของนอร์เวย์ เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น โดยไฟเซอร์ย้ำว่า จำนวนเหตุการณ์ที่พบจนถึงตอนนี้ ยังไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ และสอดคล้องกับจำนวนที่คาดการณ์เอาไว้

 

 

อย่างไรก็ตามทางข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ พบว่านอร์เวย์ มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วมากกว่า 57,000 คนและเสียชีวิตราว 500 ราย  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเน้นว่าในยามปกตินั้น มีผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราเสียชีวิตราวๆ 400 คนในแต่ละสัปดาห์

 

 

"เจ้าหน้าที่นอร์เวย์จัดวางความสำคัญฉีดวัคซีนแก่ผู้พักอาศัยตามบ้านพักคนชราในลำดับต้นๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุมากๆที่มีโรคประจำตัวและป่วยระยะสุดท้าย สำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ยืนยันว่าจนถึงตอนนี้จำนวนเหตุการณ์ต่างๆยังไม่เป็นที่น่ากังวล และเป็นไปตามกรอบที่คาดหมายไว้"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วัคซีนโควิด ‘หมอบุญ’ จ่อฟ้องศาลกีดกันขึ้นทะเบียน

WHO แนะเลิกบังคับฉีดวัคซีนป้องกัน"โควิด-19"ก่อนออกนอกประเทศ

“อาการแพ้” และ “ผลข้างเคียง” จากการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 : ประสบการณ์รอบโลก

"หมอยง" ชี้วัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่ป้องกันการเกิดโรคแต่ไม่ยืนยันป้องกันการติดเชื้อ

นายกฯ สั่งวางแผนเร่งด่วน ฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มเสี่ยง 13 ล้านคนกลางปีนี้