โฆษก ศบค.ลงพื้นที่อุบลราชธานี ติดตามความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลฯ ขนาด 1,000 เตียง ชมคนเขื่องในใจดี พร้อมรับคนป่วยเข้าพัก
วันที่ 12 มกราคม 2564 นายแพทย์ ทวีศีลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 10 ลงพื้นที่ตรวจเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม จังหวัดอุบลราชธานี ขนาด 1000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วย covid-19 ระลอกใหม่ ตั้งอยู่ที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความพร้อม เตรียมการจัดตั้งสนาม รองรับสถานการณ์ หากเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ทรัพยากร งบประมาณ และสถานที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 1,000 เตียง ที่ ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ ได้ใช้เป็นสถานที่พักเพื่อเฝ้าสังเกตอาการโควิด-19 (Local Quarantine) ของจังหวัดอยู่แล้ว โดยได้สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ว่า บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ปิดที่ห่างไกลจากชุมชน มีความปลอดภัยสูง มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค และพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยหากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น
นอกจากนั้น จังหวัดอุบลราชธานีจะใช้พื้นที่อาคารเรียนรวม บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตบ้านยางน้อย เป็นพื้นที่รองรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ เนื่องจากเป็นอาคารขนาดใหญ่ ที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค สามารถแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับผู้ป่วยแยกหญิง - ชาย รวมถึงพื้นที่ในการปฏิบัติงานและที่พักของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเตรียมบุคลากรทางการแพทย์จากทุกอำเภอให้พร้อมปฏิบัติงานไว้ 10 ทีม ซึ่ง 1 ทีมจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้ 100 คน
ทางด้าน รศ.ธรรมรักษ์ ละอองนวล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยมีความยินดี ที่จะให้จังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัย ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากเล็งเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับชาวอุบลราชธานี ประกอบกับศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย เป็นสถานที่ปิดที่มีบริเวณกว้างขวาง มีอาคารที่เหมาะสม และพร้อมที่จะร่วมมือกับจังหวัดในการดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบาย มีความปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นพ.ทวีศีลป์ วิษณุโยธิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรองรับสถานการณ์หากมีการะบาด จำนวนมาก อาจจะเป็นหลักร้อยถึงพันราย ที่นี่รับได้ แต่หากผู้ป่วยมีจำนวนน้อย ก็จะใช้เตียงในโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลอื่น รับไปก่อน แต่ถ้าหากเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยขึ้นไป ทางส่วนของภาครัฐ ก็คือ สำนักงานสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และ รวมถึงฝ่ายมั่นคง คือ มณฑลทหารบกที่ 22 ก็สามารถนำเตียงสนามมาเสริมได้ทันที ซึ่งก็ได้ออกแบบห้องเรียนของนักศึกษาที่ยังไม่ได้ใช้ ที่จัดเตรียมไว้รองรับการแข่งขันการกีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลฯ จะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ สำหรับครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ทางสำนักงานสาธารณสุข ก็สามารถที่จะเข้ามาเติมเต็มได้ทันที
นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานพร้อมจะสนับสนุน เช่นทาง อบจ.อุบลฯ ทางอำเภอเขื่องใน โดยนายสันติพงษ์ สมศรี ทางภาคเอกชน ก็มี หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 โดยทางประธาน สมชาติ พงคพนาไกร ก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่
สำหรับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาในบางจังหวัด หากมีการตั้งโรงพยาบาลสนาม ประชาชนมักจะค่อยสบายใจ ไม่ให้การต้อนรับ มีการคัดค้านกัน แต่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวอำเภอเขื่องใน ยินดีต้อนรับคนที่จะมาพักอยู่ที่นี่ ซึ่งก็เป็นความพร้อมเพรียงกันของคนในจังหวัดอุบลฯเป็นอย่างดี ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่ช่วยกัน ทำให้สังคมไทยเราน่าอยู่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวในที่สุด
ส่วนในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ โฆษก ศบค. ได้ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานการประชุม จากนั้นเปิดแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน สดจากที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับสถานการณ์ โควิด-19 จังหวัดอุบลราชธานี (ข้อมูลวันที่ 11 ม.ค.64) มีผู้ป่วยสะสม 3 ราย ยังรักษาตัว 2 ราย หายป่วยแล้ว 1 ราย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) รายใหม่ 34 ราย สะสมปี 64 จำนวน 647 ราย รอผลการตรวจ 12 ราย หาย 632ราย ผู้เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด รายใหม่ 266 ราย สะสม 10,838 ราย มีความเสี่ยงสูง/กักกัน 318 ราย ส่งตรวจ 300 ราย ผู้ที่กักกันที่ศูนย์บ้านยางน้อย อ.เขื่องใน รายใหม่ 1 ราย สะสม 308 ราย คงเหลือในศูนย์ 8 ราย เดินทางมาจาก สปป.ลาว 236 ราย
ทั้งนี้ ไม่กี่วันก่อนหน้า นพ.ทวีศิลป์ เคยชี้แจงภารกิจและตำแหน่งหน้าที่ทางราชการว่า ตำแหน่งตามที่ได้รับโปรดเกล้าฯ คือ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบในเขตพื้นที่อีสานใต้ ส่วนโฆษกสบค. เป็นตำแหน่งเพิ่ม