ยะลา น้ำท่วมหนัก ในรอบ 7 ปี

08 ม.ค. 2564 | 12:16 น.

รัฐมนตรีช่วงกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ช่วยเหลือจังหวัดยะลา หลังเกิดเหตุน้ำท่วมหนักในรอบ 7 ปี พร้อมกำชับ ผู้ว่าฯติดตามการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลาง ห่วงกระทบประชาชนท้ายเขื่อน

8 มกราคม 2564 - นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.จังหวัดยะลา จำนวน 300 ชุด โดยมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่

รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดยะลา

จากนั้น รมช.มท.และคณะได้เดินทางต่อไปยังบ้านหัวสะพาน ม.2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อตรวจติดตามการควบคุมและปล่อยระดับน้ำของเขื่อนบางลาง และติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ รวมทั้งนำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับพี่น้องประชาชนอีกจำนวน 300 ชุดอีกด้วย
 

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการป้องกันและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนซึ่งจังหวัดยะลาได้ดำเนินการแจ้งเตือนภัยให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนเป็นอย่างดีและเน้นย้ำเมื่อเกิดสาธารณภัยต้องรักษาชีวิตไว้เป็นอันดับแรกอย่าประมาทกับชีวิต และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ติดตามการข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด" ซึ่งจังหวัดยะลาเอง แม้น้ำในปีนี้จะมีปริมาณสูงในรอบ 7 ปี 

น้ำท่วมจังหวัดยะลา

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริหารจัดการเพื่อรองรับผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเป็นอย่างดี โดยหลังจากนี้สถานการณ์ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการช่วยเหลือและเยียวยาบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยต่อไปซึ่งอยู่ในแผนที่จะดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
 

"ในส่วนของสถานการณ์ช่วง 4-5 วันนี้ ก็ขอให้ ผวจ. ปภ. และหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และต้องเฝ้าระวังเรื่องสุขอนามัยและโรคที่มากับน้ำเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยของพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนตักเตือนบุตรหลานอย่าปล่อยให้เล่นน้ำเพียงลำพังเพราะบางจุดของการท่วมขังน้ำก็ยังมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวมากอยู่ และดูแลจุดเสี่ยงในเส้นทางสัญจรต้องมีการแจ้งเตือนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุได้" นายนิพนธ์กล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูลขณะนี้จังหวัดยะลาได้รับผลกระทบจำนวน 8 อำเภอ 52 ตำบล 265 หมู่บ้าน 7 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,139 ครัวเรือน 47,909 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อำเภอรามัน สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายถนน 51 สาย สะพาน 11 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตร 1,528 ไร่ ปศุสัตว์ 1,501 ตัว ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอกาบัง ยังคงมีอำเภอที่มีสถานการณ์น้ำท่วมคืออำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปินัง