“หมอธีระ”ชี้มาตรการ 8 ข้อ เหมือน"สล็อธติด THC" วิ่งไม่ไหว เชื่องช้า

05 ม.ค. 2564 | 02:41 น.

“หมอธีระ”ชี้มาตรการ 8 ข้อ เหมือน"สล็อธติด THC" ที่นอกจากจะวิ่งไม่ไหวแล้ว ก็จะเชื่องช้าในการต่อสู้ ย้ำเวลาเหลืออีกไม่มากนัก

วันที่ 5 มกราคม 2564  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 5 มกราคม 2564   ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า  สายๆ จะทะลุ 86 ล้าน

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 518,083 คน รวมแล้วตอนนี้ 85,937,939 คน ตายเพิ่มอีก 8,583 คน ยอดตายรวม 1,857,994 คน

 

อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 176,541 คน รวม 21,243,307 คน ตายเพิ่มอีก 1,482 คน ยอดตายรวม 361,316 คน

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 16,584 คน รวม 10,357,569 คน

 

บราซิล ติดเพิ่มถึง 18,102 คน รวม 7,751,721 คน

 

รัสเซีย ติดเพิ่ม 23,351 คน รวม 3,260,138 คน

 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 4,022 คน รวม 2,659,750 คน

 

อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักหมื่นต่อวัน

 

สหราชอาณาจักรติดเชื้อเพิ่มเกินห้าหมื่นคนติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เมื่อวานนี้ทำลายสถิติอีกครั้ง 58,784 คน ยอดติดเชื้อสูงสุดต่อวันในระลอกนี้มากกว่าระลอกแรกถึง 7.5 เท่า ล่าสุดสหราชอาณาจักรประกาศล็อคดาวน์ไปแล้ว

 

ในขณะที่ไอร์แลนด์ก็กำลังเผชิญการระบาดระลอกสามที่สูงกว่าทั้งสองระลอกที่เคยเผชิญมาถึง 4 เท่า เมื่อวานติดเชื้อต่อวันสูงสุดเท่าที่มีมา 6,110 คน

 

ฝั่งอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

 

แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

 

เมียนมาร์ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนาม และกัมพูชามีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 590 คน ตายเพิ่มอีก 16 คน ตอนนี้ยอดรวม 126,935 คน ตายไป 2,744 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%

วิเคราะห์สถานการณ์ในเมืองไทย... สิ่งสำคัญตอนนี้คือ อยากให้ทุกคนทราบว่า การติดเชื้อโดยไม่มีอาการนั้นสามารถแพร่ให้คนอื่นได้ง่าย เพราะคนแพร่ก็อาจไม่รู้ตัว และคนที่รับก็จะไม่รู้ตัวเช่นกัน

 

เชื้อไวรัสขณะนี้ต่างจากสายพันธุ์เดิม เพราะไวรัสจะมีปริมาณมากขึ้นในช่องจมูก ช่องปาก ซึ่งเป็นทางเดินหายใจส่วนบนด้วย ทำให้แพร่ได้ง่ายขึ้นทางละอองน้ำลายและน้ำมูก

 

ทุกคนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

 

ในขณะที่ การดำเนินการจากส่วนกลางก็ไม่เข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่วิกฤติมาก มาตรการที่ออกมา 8 ข้อนั้น ไม่ใช่เสือ ไม่ใช่สิงโต ไม่ใช่หมาจิ้งจอก แต่ตอนนี้เปรียบเหมือน"สล็อธติด THC" ที่นอกจากจะวิ่งไม่ไหวแล้ว ก็จะเชื่องช้าในการต่อสู้ เห็นภาพหลอนแบบมองกงจักรเป็นดอกบัว

 

การบริหารจัดการ...คงต้องมีคนกระตุกขาให้ฉุกคิดให้ดีว่าจะทำแบบรวมศูนย์ หรือแบบดาวกระจาย ปล่อยไว้แบบนี้จะสะเปะสะปะ ไม่เป็นเอกภาพ และจะไม่สามารถทำให้ทุกคนรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการสู้ศึกครั้งนี้

 

ไม่เข้มข้นให้ทันเวลา ถ้าระบาดหนักมันจะพังพาบกันทั้งประเทศระยะยาว

 

เวลาเหลืออีกไม่มากนัก

 

และกรุณาอย่าย้อนว่า "ถ้าไม่อยากติดเชื้อก็ให้อยู่กับบ้านด้วยตัวเอง" การตอบแบบนี้ไม่โอเคครับ เพราะหากคิดเช่นนั้น ก็แปลว่าไม่ต้องมีคนมาบริหารก็ได้ ให้แต่ละคนอยู่กันเองเอาตัวรอดกันเองตามมีตามเกิด

 

หากรักประชาชน ต้องปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิต ตอนนี้เชื้อโรคมันอาละวาดไปทั่ว ปล่อยให้กระจายแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เศรษฐกิจที่ท่านห่วงในระยะสั้นนี้จะหมดความสำคัญไปเลยหากระบาดกันทั่วหน้า ทั้งระบบเศรษฐกิจ สุขภาพ และความมั่นคงของประเทศจะพังกันเป็นโดมิโน่ในระยะยาว

 

มายาคติจากกลุ่มการเมืองใกล้ตัว นำพาให้เราประสบปัญหาภาพหลอนเรื่องต่างๆ ทั้งยาเสพติดรักษาสารพัดโรค เอาอยู่ กระจอก ความสามารถของระบบมาตรฐานระดับโลก ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่และไม่พอที่จะจัดการปัญหาการระบาดซ้ำได้ หากดูข้อมูลและประเมินตามจริง และสถานการณ์ปัจจุบันก็แสดงให้เห็นแล้ว คงต้องถามตรงๆ ว่า จะยอมให้พังอีกกี่ครั้งด้วยเหตุเดิมๆ

 

ที่ทักตรงๆ เช่นนี้ เพราะหวังว่าจะตื่นจากภวังค์ได้ทันเวลา และทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ หากไม่รักไม่เคารพจะไม่ทักเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนแต่ละคนแต่ละครอบครัวต้องรับรู้ว่าเรากำลังเผชิญกับอันตรายจากโรคระบาดที่หนักมาก คุกคามต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิต และจำเป็นจะต้องเอาตัวรอดให้ได้ ด้วยการ"อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อตัวเอง" ใส่หน้ากากเสมอเวลาจำเป็นต้องออกไปจากบ้าน ล้างมือ อยู่ห่างๆ กินดื่มคนเดียว ไม่กินในร้าน เลี่ยงขนส่งสาธารณะ และงดกิจกรรมสังคมทุกประเภทครับ

 

ก่อนหน้านี้ รศ.นพ.ธีระ  โพสต์ข้อความระบุว่า เรียนท่านผู้ประกอบกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ภัตตาคาร และผู้บริหารโรงอาหารและศูนย์อาหารทุกท่าน

 

สถานการณ์ระบาดที่รุนแรงเช่นที่เราเห็นในปัจจุบัน ผมขอเรียนท่านตรงๆ ว่า หากท่านเปิดให้คนมานั่งรับประทาน ไม่ว่าจะจัดการเช่นไร ก็จะยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ครับ

 

ทั้งจากผู้ให้บริการ หรือจากลูกค้าไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนมีโอกาสติดเชื้ออยู่โดยไม่รู้ตัวได้

 

และหากเกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบอย่างมากทั้งต่อกิจการของท่านเอง ลูกค้า รวมถึงคนอื่นๆ ในสังคม

 

สิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือ การเปิดบริการโดยขายเฉพาะให้นำกลับไปทานที่บ้าน (take away only) เท่านั้นครับ

 

ทำแบบนี้ไม่ใช่เพื่อปกป้องลูกค้าและสังคม แต่เป็นการปกป้องกิจการของท่านด้วยครับ

 

แม้รัฐไม่สั่งการ แต่เรารู้ว่ากำลังระบาดหนัก นี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ท่านรอดได้ครับ มิฉะนั้นการระบาดซ้ำครั้งนี้จะมีโอกาสรุนแรงมาก และส่งผลกระทบในระยะยาว

 

หากท่านทำได้ โปรดช่วยกันทำเถิดครับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดโควิด 5 ม.ค.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 4.86 แสนราย รวม 86.04 ล้านราย

"นนทบุรี" เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ เชื่อมโยง"ตลาดบางใหญ่"

จับตา ถกครม. ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ “บิ๊กตู่” สั่งแจงเงื่อนไขเดินทางข้ามจังหวัด