วันนี้ (5ม.ค.64) เวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
โดยรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า การประชุมครม.ในวันนี้จะใช้มาตรการด้านสาธารณสุข ลดความแออัดในห้องประชุม ลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง จึงใช้วิธีการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (Video Conference) โดยที่รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการแต่ละกระทรวงไม่ต้องเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนในห้องประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ก็จะมีเพียงนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ฯ เท่านั้นที่จะอยู่ในห้องประชุมกับนายกรัฐมนตรี
โดยภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีจะแถลงผลการประชุม ต่อด้วยคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะใช้วิธีการ(ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live เพจ ไทยคู่ฟ้า เพื่อลดความแออัดของสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน
ส่วนวาระการประชุมครม.น่าสนใจ คือ จะมีการนำมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ หรือ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เห็นชอบขยายการประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กำลังจะครบกำหนดในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.64 นี้เข้ามารายงานเป็นวาระเพื่อทราบ เพื่อเผยแพร่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
และอีกประเด็นที่น่าสนตือ คือ เวลา 11.30 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะแถลงข่าว ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยประเด็นในการแถลงที่ต้องติดตามคือสถานการณ์การพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเท่าไร และจะมีการแถลงมติของศบค. ในเรื่องเงื่อนไขการเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงจะมีความเข้มงวดมากขึ้น
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมศบค.เมื่อวานนี้ ได้ระบุว่า ศบค.ประชุมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในปัจจุบันที่มีตัวเลขสูงขึ้น โดยมีมาตรการดูแลพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดได้มีการตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจสอบประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดที่เสี่ยงสูง จากต้นทางและจังหวัดโดยรอบ แต่ไม่ใช่การล็อกดาวน์ เพราะเป็นเรื่องของมาตรการที่แต่ละพื้นที่จะกำหนดขึ้นมาเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลกำหนดไปแล้ว โดยในวันที่ 5 ม.ค. จะมีชี้แจงอีกครั้ง
“ต้องขออภัยด้วยหากมีความยากลำบากในการเดินทาง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือ อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้ความสำคัญในการควบคุมผู้ติดเชื้อให้อยู่ในสถานที่ที่สามารถควบคุมได้ และนำเข้าสู่การตรวจสอบคัดกรองให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้น แต่เพียงหากเราควบคุมได้ก็แสดงว่าเราทำตามมาตรการได้ดีพอสมควร ก็ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วน