บีทีเอส ฉะ รฟม. หลังศาลฯนัดไต่สวนรื้อเกณฑ์ประมูล "สายสีส้ม"

18 ธ.ค. 2563 | 07:42 น.

บีทีเอส. เผยศาลฯ นัดไต่สวน เหตุบอร์ดมาตรา 36 -รฟม.ปรับเกณฑ์ทีโออาร์ใหม่ มั่นใจเกณฑ์เดิมโปร่งใส. ด้านรฟม. ลั่นกระทบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่อล่าช้า

นายสุรพงษ์. เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยภายหลังศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน ระหว่างบีทีเอสซี และคณะกรรมการมาตรา 36 กับพวกรวม 2 คน ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ว่า สำหรับการนัดไต่สวนของบีทีเอสซีในครั้งนี้ ทางบีทีเอสยืนยันว่ากรณีที่ยื่นคำร้องต่อศาลฯให้กลับไปใช้หลักเกณฑ์ทีโออาร์เดิมในการประมูลโครงการฯ โดยพิจารณาให้คะแนนซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน 100% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่โปร่งใส ทั้งนี้ยืนยันว่าศาลฯจะใช้เวลาพิจารณาหลักเกณฑ์ทีโออาร์ดังกล่าวให้ถูกต้อง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการเปิดให้บริการโครงการถไฟฟ้าสายสีส้มและไม่กระทบต่อประชาชน

 

"ศาลได้นัดไต่สวนในฝั่งของเรา และให้เราฟังข้อมูลด้วย โดยยังไม่ได้มีการนัดหมายเพิ่มเติมหลังจากนี้ ซึ่งเราก็ยืนยันว่า ตามที่ได้ยื่นคำร้องไปเพราะเล็งเห็นว่าหลักเกณฑ์การพิจารณามาปรับ และอาจก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม ส่วนกรณีที่รฟม.ชี้แจงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ ว่าบีทีเอสซี ยื่นคำร้องที่ผ่านมานั้น ทำให้กระทบต่อการบริหารงานของรัฐและเกิดความล่าช้าในการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มและทำให้ประชาชนเดือดร้อน เรามองว่ากระบวนการประมูลนั้นควรดำเนินการให้ถูกต้องและรอบคอบที่สุด ซึ่งเรายังมีเวลาดำเนินการ เพราะระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการใช้เวลาอีกหลายปี"

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่รฟม.ล้มประมูลโครงการฯ หลังเปิดรับซองไปก่อนนั้นสามมารถทำได้หรือไม่ ว่า ตามปกติในเอกสารการประกวดราคา (RFP) จะเขียนสงวนสิทธิ์การยกเลิกประมูลโครงการฯ รฟม.ก็น่าจะทำได้ ส่วนเอกชนมีสิทธิ์ฟ้องร้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับคำตอบและเหตุผลจากรฟม.ว่าเหมาะสมหรือไม่ในการยกเลิกประมูลโครงการฯ

 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.ยืนยันตามคำอุทธรณ์ว่าคำคำสั่งทุเลาของศาลปกครองชั้นต้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมโครงการ ทำให้เกิดความล่าช้า เนื่องจากขณะนี้ รฟม. เปิดรับซองข้อเสนอเอกชนมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการเปิดซองเพื่อพิจารณาข้อเสนอได้ ดังนั้นหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การเปิดพิจารณาข้อเสนอก็จะล่าช้าออกไปเรื่อยๆ และเป็นเหตุกระทบต่อโครงการ กระทบต่อการเปิดให้บริการประชาชน และสร้างความเสียหาย

สำหรับคดีคำร้องเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ฟ้องคดี ส่วนคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี โดยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ทั้งนี้คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ให้ใช้การประเมินซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมกันแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอื่น