WTO ระบุการค้าโลกต่ำ 5 ปีติดกัน

24 เม.ย. 2559 | 00:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ช่วงปลายเดือนมีนาคมต่อเดือนเมษายนปีนี้ ข่าวจาก "ฐานเศรษฐกิจ" รายงานการค้าโลกในรอบ 5 ปีพบว่ามีการค้าทีขยายตัวต่ำ ต่ำจนหลีกเลี่ยงที่จะประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งลักษณะการค้าโลกเป็นแบบนี้ คือขยายตัวต่ำติดต่อกันนานถึง 5 ปีไม่เคยมี ซึ่งรายงานชิ้นนี้น่าจะจัดเก็บเป็นข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สิ่งที่โลกเผชิญอยู่ เผชิญในยุคสมัยของโลกอินเตอร์เน็ตเฟื่องฟู การค้าขายระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อเกิดขึ้นโดยตรงตัดคนกลางออกไป ปริมาณซื้อขายแบบนี้จะมีมากแค่ไหนไม่เคยมีใครทำตัวเลขไว้ชัดๆ แต่ผมว่าการค้าเช่นนี้ย่อมมีบทบาทต่อปริมาณการค้าโลกบ้าง แต่อาจจะน้อยเกินไปหากเทียบกับระบบการค้าแบบเดิมๆ ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งนั่นก็ไม่แน่ว่าอีก 10-20 ปี อาจจะมีตัวเลขที่ปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัดก็ได้

ในรายงานคาดการณ์ฉบับล่าสุดขององค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ คาดการณ์ว่าปริมาณสินค้านำเข้าส่งออกทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวเพียง 2.8% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับการขยายตัวในปี 2558 อย่างไรก็ดี ในรายงานระบุถึงความเสี่ยงด้านลบ และเน้นย้ำให้เห็นถึงการเติบโตของการค้าโลกที่ชะลอตัวมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกันในระดับต่ำกว่า 3% "ระยะเวลาการเติบโตที่เป็นบวกแต่อยู่ในระดับต่ำยาวนานติดต่อกันเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" นักเศรษฐศาสตร์ดับเบิลยูทีโอระบุ

คาดการณ์ล่าสุดนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ดับเบิลยูทีโอไม่ได้คาดการณ์การฟื้นตัวของการค้าโลก นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งเป็นที่คาดหมายว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตลงจาก 3.4%

สำหรับนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก แนวโน้มการค้าโลกที่ชะลอตัวติดต่อกันในช่วงที่ผ่านมา เป็น 1 ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในรูปแบบเดิมเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2551 ในช่วงเวลา 30 ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวของการค้าโลกอยู่ในระดับที่สูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกประมาณเท่าตัว เนื่องจากการเกิดขึ้นของผู้เล่นหน้าใหม่สำคัญๆ เช่น จีน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อาทิ ต้นทุนการคมนาคมขนส่งที่ลดลง ที่ส่งผลให้ปรากฏการณ์โลกาภิวัตน์เป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น

การค้าโลกทรุดลงในปี 2552 จากผลของวิกฤติเศรษฐกิจ และฟื้นตัวกลับมาได้ในปี 2553 อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่นั้นปริมาณสินค้าที่มีการนำเข้าและส่งออกทั่วโลกยังเติบโตขึ้นเพียงช้าๆ และในปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจที่มูลค่าการค้าหดตัวลง แม้ว่าปัจจัยส่วนหนึ่งจะมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง

ดับเบิลยูทีโอบอกว่า มูลค่าการค้าทั่วโลกเมื่อปีก่อนเมื่อคำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน ลดลง 13% เหลือ 16.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2557โรเบิร์ต คูปแมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดับเบิลยูทีโอ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นกับการค้าโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มาจากการหมุนเวียนของวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนส่งผลให้ความต้องการในแต่ละภูมิภาคผลัดกันลดลง อาทิเช่น ภูมิภาคเอเชียมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าโลกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติปี 2551 อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ลดลง ส่งผลให้บทบาทของจีนในการขับเคลื่อนการค้าโลกลดลงตามไปด้วย

ข้อมูลของดับเบิลยูทีโอระบุว่า ในปี 2556 เอเชียช่วยเพิ่มปริมาณของสินค้านำเข้าทั่วโลกได้ 1.6-2.3% หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3 ของการเติบโตทั้งหมด แต่ในปี 2558 สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 0.6% หรือไม่ถึง 1 ใน 4 ของอัตราการเติบโตทั่วโลกที่ 2.6% ขณะเดียวกัน ยุโรปที่เป็นปัจจัยฉุดการเติบโตของความต้องการสินค้านำเข้า 0.1% ในปี 2556 มีบทบาทต่อการเติบโตของการค้าเมื่อปีก่อนถึง 1.5% หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ของทั้งหมด

เรื่องของเรื่องก็เริ่มจากวิกฤติทางการเงินยุโรป ตามมาด้วยวิกฤติทางการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรปคว่ำบาตรสินค้าจากรัสเซีย อเมริกันก็เอาด้วย แล้วก็ส่งผลกระทบไปทั่วโลก นั่นล่ะครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,150 วันที่ 21 - 23 เมษายน พ.ศ. 2559