4 ไอเดียล้างบาง "ยาเสพติดเรือนจำ" เสนอ " ดักสัญญาณมือถือ-จนท.แจ้งบัญชีทรัพย์สิน"

15 ธ.ค. 2563 | 08:30 น.

 ครม.รับทราบ 4 มาตรการป้องกันซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ จากป.ป.ช. ดักสัญญาณมือถือ-ห้ามจนท.ใช้โทรศัพท์ และกำหนดตำแหน่งที่แจ้งปัญชีทรัพย์สิน

วันที่ 15 ธ.ค. 63 น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(คณะกรรมการป.ป.ช.)เสนอ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมาตรการไปพิจารณาดำเนินการ 

 

ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช.ระบุว่า ปัญหาการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน เป็นปัญหาสำคัญโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือสื่อสาร เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเรือนจำกระทำการทุจริตเป็นสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจและรับผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ต้องขังหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง  รวมทั้งการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้นผู้ต้องขังหรือเจ้าหน้าที่ด้วยกัน หรือเกิดจากความเกรงใจไม่กล้าตรวจค้นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงกว่า

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ป.ป.ช.ได้เสนอมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำดังนี้คือ 

 

1.กรณีผู้ต้องขังเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถติดต่อสั่งการค้ายาเสพติดได้อย่างอิสระกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำ ให้เรือนจำทั่วประเทศห้ามเจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์สื่อสารอื่นๆในเรือนจำ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายในการตรวจจับสัญญาณการโทรออกเป็นรายวัน โดยส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานรัฐบาลเพื่อให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและรายงานให้กรมราชทัณฑ์ทราบเพื่อลงโทษผู้บัญชาการเรือนจำ และขยายผลการปราบปราม 

 

รวมทั้งให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้รับอนุญาตด้านโทรคมนาคมที่ต้องดูแลด้านความมั่นคงของรัฐ เมื่อได้รับการร้องขอให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้รับใบอนุญาตที่ต้องดำเนินการในทุกๆด้าน หากไม่สามารถทำได้อาจจะถูกพิจารณาเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตหรือยกเลิกใบอนุญาต

 

2.กรณีตรวจพบยาเสพติดในเรือนจำ ให้กรมราชทัณฑ์เปิดเผยผลการตรวจจับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยเปิดเผยผลการดำเนินการเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบซื้อขายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำด้วย 

3.กรณีผู้ต้องขังให้สินบนกับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต ทำให้เกิดการซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ ให้คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาประกาศกำหนดตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป.ป.ช. และให้กรมราชทัณฑ์จัดทำแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินคดีอาญาและการลงโทษทางวินัยของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

 

4.กรณีผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถสั่งการให้เครือข่ายค้ายาเสพติดข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่  ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมมือทำงานเป็นการถาวร สังเกตการณ์ ควบคุมดูแลผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกคุมตัวในเรือนจำความมั่นคงสูงสุดเป็นการพิเศษ ซึ่งรัฐบาลจะต้องสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง โดยให้กรมราชทัณฑ์เป็นเจ้าภาพ และให้รัฐบาลมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแล อย่างไรก็ตามเนื่องจากบางกรณีเจ้าหน้าที่อาจถูกบีบบังคับจากผู้มีอิทธิพล และเมื่อร้องเรียนตามกระบวนการแต่ไม่มีการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่ร้องเรียนต่อชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป