"คนละครึ่ง คลัง เปิดช่องทาง [email protected] แจ้งเบาะแสร้านค้าขึ้นราคา

01 ธ.ค. 2563 | 08:30 น.

"คนละครึ่ง" กระทรวงการคลัง เปิดช่องทาง" [email protected]" แจ้งเบาะแสร้านค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา เอาเปรียบประชาชน

จากกรณีที่ ร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ ด้วยการฉวยโอกาสประชาชน ไล่เรียงตั้งแต่ ปรับราคาสินค้า และ คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกจากค่าสินค้า เช่น กรณีล่าสุด คิดราค่าสินค้าบวกเพิ่มค่าอินเตอร์เน็ต ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้ร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือดำเนินการด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบประชาชนและทำลายบรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอยอีกทั้งเป็นการดำเนินการที่ผิดเงื่อนไขของโครงการซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ตลอดจนช่วยให้ร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับถอยหลังลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ 4 คงเหลือสิทธิ 4.8 แสนราย

เตรียมพร้อมกดปุ่มยืนยัน "คนละครึ่งเฟส2" เดือน ธ.ค.สรุปชัดเจน

ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ4 มาแน่หลังยังไม่ครบ 10 ล้านสิทธิ

"คนละครึ่ง" รัฐฯมั่นใจ ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งทะลุ 1 ล้านร้านค้า

 

 

รองโฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หากท่านพบพฤติกรรมการขึ้นราคาสินค้าหรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ อาทิ การรวมค่าบริการอินเตอร์เน็ตมือถือของร้านค้าอยู่ในราคาสินค้า ท่านสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมาที่ [email protected]  หรือติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509 (เวลาราชการ) หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง) ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มีการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและตรวจสอบประเด็นดังกล่าวด้วยแล้ว หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินของร้านค้าทันที และอาจจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอความร่วมมือร้านค้าให้ซื่อสัตย์ต่อประชาชนและขอให้ประชาชนรักษาสิทธิของตัวเองด้วย โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการอย่างเคร่งครัด

 

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.7 แสนร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,515,956 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 31,777 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 16,226 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 15,551 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 184 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชลบุรี ตามลำดับ

ขณะที่ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความที กระทรวงการคลัง เตือนร้านค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และ ให้แจ้งเบาะแสผ่าน [email protected]