ปตท.ตั้ง"ทศพร ศิริสัมพันธ์" นั่งประธานบอร์ด มีผล18 พ.ย.นี้

18 พ.ย. 2563 | 06:58 น.

มติบอร์ดปตท.แต่งตั้ง "ทศพร ศิริสัมพันธ์ " ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ปตท. มีผลตั้งแต่ 18 พ.ย.นี้

 
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญบมจ.ปตท. (PTT) แจ้งว่า คณะกรรมการ ปตท.ในการประชุมครั้งที่10/2563 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ได้มีมติแต่งตั้งพิเศษ ศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ  แทนนายไกรฤทธิ์  อุชุกานนท์ชัย ซึ่งพ้นจากตำแหน่งโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจให้ความเห็นชอบ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ได้แจ้งมติให้ความเห็นชอบมายัง ปตท. เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 

 

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ปตท. ในการประชุมครั้งที่ 11/2563 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ได้มีมติแต่งตั้ง ศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ปตท. ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแล้ว

 

ประวัติและเส้นทางการทำงาน

 

ศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์  เพิ่งเกษียณอายุงานจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาหมาดๆ ปัจจุบันอายุ 60 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้าปริญญาโท Master of Public Administration, Pi Alpha Alpha (National Honor Society for Public Affairs and Administration), Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาเอก สาขาการวิเคราะห์นโยบาย การบริหารรัฐกิจและการเมืองเปรียบเทียบ Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อปี 2556-2557 เป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557-30 ก.ย. 2559 และเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ระหว่างปี 2559-2561

 

นอกจากนี้ยังเคยเป็นกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการข้าราชาการพลเรือนในถานบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.)

 

รวมถึงเป็น ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรม (องค์การมหาชน),กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) และกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นต้น