วันนี้(4 พ.ย.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กล่าวถึงกรณี นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) ปฎิเสธการเข้าร่วม กรณีการตั้งกรรมการสมานฉันท์เพื่อแก้ไขความขัดแย้งและหาทางออกร่วมกัน โดยยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยปฎิเสธจะไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการฯในคณะดังกล่าวนั้น
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ท่าทีของเพื่อไทยกี่ยุคกี่สมัยก็เหมือนเดิม อย่าไปถือสาว่าความกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทยในชุดปัจจุบันเลย เพราะคงตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องฟังตามนายใหญ่ทางไกลสั่งมากกว่า ไม่มีความคิดเห็นเป็นของตัวเองได้เลยสักเรื่อง น่าละอายใจ
ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตของผู้บริหารพรรคเพื่อไทยตลอดระยะเวลา ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งใหญ่ มีข้อสังเกตหลายประการ อาทิเช่น
1.พรรคเพื่อไทยยังมีท่าทีความอาฆาตแค้นที่คิดว่า คสช.เข้ามาบริหารอำนาจรัฐแทนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ปัญหาความขัดแย้งและการทุจริตมากมายในยุคนั้น ประเด็นนี้ยังไม่ปล่อยเลิกอาฆาตรัฐบาลนี้ใช่ไหม ไม่เคยคิดว่ารัฐบาลเพื่อไทยในอดีตบริหารบ้านเมืองจนบ้านเมืองวุ่นวายและเกิดความผิดพลาดมหาศาลเลยใช่ไหม
2.พรรคเพื่อไทยยังมีมีกิเลสกระหายอยากเข้ามีอำนาจเป็นรัฐบาลเอง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง ตั้งความหวังไว้สูง การเป็นฝ่ายค้านคงอดอยากปากแห้งใช่หรือไม่
3.พรรคเพื่อไทยอ้างว่ารัฐธรรนูญ ปี 60 เป็นเผด็จการณ์ แต่ก็ส่งผู้สมัครฯ เข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ ประเภทเกลียดปลาไหลแต่กินน้ำแกง ทำไมต้องส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งถ้าไม่ยอมรับรธน.ปี 60 จะส่งผู้สมัครส.ส.ทำไม รอรธน เป็นประชาธิปไทยตามแบบพรรคเพื่อไทยก่อนไม่ดีกว่าหรือ
4.รัฐสภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาญัติร่างแก้ไข รธน. กลับไม่ยอมเข้าร่วมแก้ไขกลับวอร์คเอ้าท์ ตกลงเอาไงแน่ ไหนบอกรธน.ไม่เป็นประชาธิปไตย ปากว่าตาขยิบเสียจริง กล่าวหา รธน.เป็นเผด็จการณ์พอให้แก้ไขกลับไม่ยอมร่วมแก้ เล่นเกมการเมืองชัดๆ อย่างนี้ใช้ได้ไหม
5.เรียกร้องให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง ประชุมกัน 2 วัน 2 คืน อภิปรายกันเต็มที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รุมถล่มรัฐบาล อัดเต็มที่ยังกับอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ สุดท้ายทุกฝ่ายส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมการสมานฉันท์หาทางออกร่วมกัน แต่พรรคเพื่อไทยกลับจะไม่ยอมเข้าร่วมในคณะกรรมการฯ นี่เป็นการหลอกให้เปิดประชุมสภาหวังด่ารัฐบาล ต้มประชาชนทั้งประเทศใช่ไหม
“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่เอาสักอย่าง หวังเกาะเด็กที่ก้าวร้าว หรือจะเดินตามแกนนำอย่างนายธนาธร นายปิยบุตร และแกนกลุ่มคณะราษฎร์ 63 หรือกลุ่มที่คิดมาล้มล้างสถาบันกษัตริย์ อย่างนั้นใช่ไหม นี่คือพฤติกรรมที่ต้องเอามาพูดกันบ้าง อย่าคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่อ่านเกมพรรคเพื่อไทยไม่ทัน อย่าเล่นการเมืองโดยไม่ฟังเสียงคนส่วนใหญ่ แต่กลับไปฟังเสียงคนส่วนน้อยเข้าข้างคนที่คิดปฏิรูปล้มล้างสถาบัน น่าละอายใจที่สุด”
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ฝากพี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ได้รับรู้รับทราบพฤติกรรมกรรม พรรคการเมืองประเภทนี้ ที่คนไทยเรียกว่า ปากว่าตาขยิบ คิดถึงเพียงแค่อยากกลับมามีอำนาจและรักษาผลประโยชน์ของพวกตนเอง โดยไม่คิดช่วยหาทางออกให้ประเทศและฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ตรงข้ามกลับมาเล่นละครการเมืองตบตาประชาชนตลอดมา น่าปวดใจแทนประชาชนคนไทยมากๆ เลยครับ