ตำรวจห้ามม็อบปักหลักทำเนียบ ระดม 1.5 หมื่นนายรับมือ

12 ต.ค. 2563 | 11:00 น.

ตำรวจห้ามม็อบ “คณะราษฎร” ทำหมิ่นเหม่ ถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด ระดมกำลังพล 1.5 หมื่นนายรับมือ ห้ามปักหลักค้างคืนทำเนียบฯ


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันที่ 12 ตุลาคม 2563  พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจนครบาลมีความพร้อม 100% ในการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของคณะราษฎร ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แม้ขณะนี้ทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ได้ประสานขออนุญาตชุมนุมก็ตาม พร้อมยอมรับว่าบางพื้นที่ตำรวจคงไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักค้างคืน อาทิ ทำเนียบรัฐบาล แต่หากต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ทางตำรวจก็พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้ 


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะมีการวางกำลังตำรวจในการดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(13 ต.ค.) โดยในส่วนของกำลังตำรวจจะใช้ประมาณ 90 กองร้อย หรือ 15,000 นาย และตำรวจจะไม่พกอาวุธ โดยจะเน้นการเจรจาเป็นหลัก ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 


ส่วนการตั้งจุดตรวจสกัด อยู่ระหว่างการประเมินด้านการข่าวเพื่อป้องกันอาชญากรรม หรือผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ตำรวจจะใช้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นศูนย์บัญชาการเหมือนการชุมนุมวันที่ 19-20 กันยายน ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมจากการประเมินคาดว่าจะพอๆ กับคราวที่แล้วประมาณ 2-3 หมื่นคน และจะปักหลักค้างคืนแค่คืนเดียววันที่ 14 ต.ค.เท่านั้น

 

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวยืนยันว่า ตำรวจจะไม่ยอมให้มีการกระทำที่หมิ่นเหม่ โดยเฉพาะกรณีในวันดังกล่าวจะมีขบวนเสด็จผ่านถนนราชดำเนิน ทางตำรวจจะถวายความปลอดภัยขั้นสูงสุด และป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างผู้ที่มารับเสด็จ และร่วมการชุมนุม 


ส่วนการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของทางกลุ่มผู้ชุมนุมขณะขบวนเสด็จผ่าน จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะมีการพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง 


อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินคดีกับทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมานั้น เข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับเร็วๆ นี้


ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกการจราจร ว่า เบื้องต้นตำรวจจะยังไม่มีการปิดการจราจร โดยจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บนทางเท้าเท่านั้น แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุม ลงไปบนพื้นผิวจราจร ตำรวจจะวางแผนปิดการจราจรเบื้องต้น ในถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกคอกวัว ถึงแยกป้อมมหากาฬ และ ถนนดินสอ ตั้งแต่จากแยกมหรรณพ ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และแยกวันชาติ 

 

 

ส่วนระดับที่ 2 หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมาก อาจปิดการจราจรตั้งแต่แยกผ่านพิภพ จนถนนอัษฎางค์ โดยประเมินเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ได้แก่ ถนนราชดำเนินกลาง, ถนนดินสอ, ถนนหลานหลวง, ถนนตะนาวและสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งแนะนำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองที่จะเดินทางไปรับบุตรหลานในเย็นวันดังกล่าว ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางและสามารถใช้สะพานซังฮี้, สะพานพระราม 8 สะพานพระพุทธยอดฟ้าและสะพานสมเด็จพระปกเกล้า ในการสัญจรระหว่างฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรีได้ตามปกติ 


รวมถึง ทางคู่ขนานลอยฟ้า ต่อเนื่องทางด่วนศรีรัช พร้อมกำชับให้ตำรวจท้องที่ประสานกับโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ รับทราบเกี่ยวกับจราจรเพื่อให้ผู้ปกครองวางแผน ส่วนทางโรงเรียนจะมีการประเมินหยุดเรียนเพื่อหลีกการชุมนุมหรือไม่นั้นขอให้ทางตำรวจคงไม่เข้าไปแทรกแซง


รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนที่ไปยังจุดอื่น ๆ ว่าจะใช้แนวทางปิดการจราจรชั่วคราว ก่อนถึงจุดจัดกิจกรรม 1 ทางแยก และเปิดการจราจรตามปกติ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมผ่านไปแล้ว แต่ขอให้ประชาชนที่ไม่มีความจำเป็น หลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 10.00น.เป็นต้นไป เพื่อลดผลกระทบการจราจรในภาพรวม