นักลงทุนห่วงเศรษฐกิจถดถอย

09 ต.ค. 2563 | 08:54 น.

FETCO เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในโซนซบเซา ชี้นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และนโยบายภาครัฐ แต่กังวลการถดถอยของเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองในประเทศ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือน หรือเดือนธันวาคม 2563 อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง อยู่ที่ระดับ 67.44 โดยนักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ, สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ, สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ

ขณะที่ ความเชื่อมั่นรายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนบุคคลปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ในระดับ“ทรงตัว” ที่ 80.30 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในระดับ “ทรงตัว” เท่าเดิมที่ 100.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับตัวลดลงอยู่ในระดับ “ซบเซา” ที่ 68.42 และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ “ซบเซา” ที่ 42.86 สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม(FOOD) และหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร (BANK)

“ดัชนีหุ้นไทยเดือนกันยายน 2563 ปิดที่ 1,237.04 จุด ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 5.62% จากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน อาทิ  ข่าวการหยุดชะงักของโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีในหลายประเทศปรับลงแรง ข่าวสถาบันการเงินของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2566 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ"

สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่  การกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งของไวรัสโควิด-19 จนต้องกลับมาใช้มาตรการ lock down ในหลายประเทศ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ - จีนที่เพิ่มมากขึ้นการเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามา ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ผลจากการอนุมัติให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) ปัญหาการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ร้อนแรงขึ้น และผลจากการกลับมาเริ่มใช้เกณฑ์ปกติ Short Selling Ceiling & Floor ของ SET และ TFEX”