CNN ชี้ดีเบตรอบแรก “ไบเดน” นำ “ทรัมป์” แต่คนฟังไม่ได้อะไร

30 ก.ย. 2563 | 07:51 น.

นี่เป็นการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่แย่ที่สุด หลังจากที่สองผู้ท้าชิง คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน ตอบโต้กันอย่างดุเดือดในหลายประเด็นจนกลายเป็นแย่งกันพูด  ทำเอาผู้ดำเนินรายการต้องกุมขมับ อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจของ CNN หลังการดีเบตพบว่า ไบเดนกำลังนำปธน.ทรัมป์

 

30 ก.ย.2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเอ็น (CNN) วิเคราะห์สิ่งที่ได้และไม่ได้จาก การโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือ ดีเบตนัดแรก ระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต รวมทั้งนายคริส วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการ

CNN ชี้ดีเบตรอบแรก “ไบเดน” นำ “ทรัมป์” แต่คนฟังไม่ได้อะไร

นายคริส ซิลลิซซา บรรณาธิการอำนวยการซีเอ็นเอ็นใช้คำว่า น่าสยดสยอง (horrendous) พร้อมทั้งระบุถึงสิ่งที่ “ดีที่สุด” และ “แย่ที่สุด” จากการดีเบตครั้งนี้ โดยเขาใช้หัวข้อว่า “สิ่งที่ได้จากการดีเบต” แล้ววงเล็บอธิบายว่า จงใจให้หัวข้อนี้ว่าง เพราะเป็นการดีเบตที่แย่อย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ เขาให้เหตุผลว่า เพราะผู้ชมไม่ได้รู้เรื่องผู้สมัครทั้งสองคนและสิ่งที่พวกเขาจะทำหากได้รับโอกาสให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลา 4 ปี นับเป็นดีเบตที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาทำข่าวดีเบตมาตลอด 20 ปี ซ้ำยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ชาวอเมริกันกว่า 200,000 คนเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในสิ้นปีนี้

 

ส่วนหัวข้อ “สิ่งที่ไม่ได้จากการดีเบต” ซิลลิซซาระบุว่า ทรัมป์ต้องใช้การดีเบตปรับทิศทางการแข่งขัน ไม่เช่นนั้นจะพ่ายให้แก่ไบเดนอย่างยับเยิน แต่การดีเบตตลอด 90 นาทีไม่เห็นสิ่งนี้

 

ทรัมป์ครองเวทีเพราะใช้การข่มเหง พูดแทรก หลอกล่อทั้งไบเดนและวอลเลซตลอดเวลา วิธีนี้อาจได้ใจผู้สนับสนุน แต่ทำให้การดีเบตไม่น่าดู ขณะที่วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการที่เขาเคยชมว่าเป็นนักสัมภาษณ์การเมืองที่ดีที่สุดคนหนึ่งกลับไม่สามารถควบคุมเวทีได้ ปล่อยให้ผู้สมัครทั้งสองคนตะโกนและขัดจังหวะกัน ไม่สามารถจี้หรือกำกับให้ทั้งคู่พูดเรื่องนโยบายที่ผู้คนอยากฟัง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีเบตยกแรก "ทรัมป์ VS ไบเดน" ใครนำ ใครตาม

เตือนวอลล์สตรีทอาจผันผวนสัปดาห์หน้า จับตาดีเบต

ไบเดนแฉเล่ห์ทรัมป์ ตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่

 

ส่วนไบเดนทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่า จะมีคำถามเรื่องเหตุใดไม่ควรแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุดก่อนมีประธานาธิบดีคนใหม่ ก็ยังกลับตอบวกไปเวียนมา ที่น่าผิดหวังคือไบเดนบอกให้ทรัมป์ “หุบปาก” ที่พูดแทรกและเรียกทรัมป์ว่าเป็น “ตัวตลก” ซึ่งไม่สอดคล้องกับที่ไบเดนย้ำว่าจะทำให้ทำเนียบขาวมีมารยาทและมีความเป็นผู้นำอีกครั้ง

CNN ชี้ดีเบตรอบแรก “ไบเดน” นำ “ทรัมป์” แต่คนฟังไม่ได้อะไร

บรรณาธิการผู้อำนวยการซีเอ็นเอ็นเตือนว่า จะต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้วว่าการจัดดีเบตที่เหลืออีกสองครั้งจะเป็นภัยแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ การดีเบตยกแรกนี้ไม่ได้ทำให้เขาโกรธ แต่ทำให้เศร้าใจ เพราะการเมืองสหรัฐควรจะดีกว่านี้

 

นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังได้จัดทำการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันในสหรัฐที่รับชมการดีเบตรอบแรก พบว่า 6 ใน 10 ของผู้รับชมการดีเบตมองว่า นายไบเดนอภิปรายได้ดีที่สุด และมีเพียง 28% เท่านั้นที่มองว่า ปธน.ทรัมป์อภิปรายได้ดีที่สุด

 

ผลการสำรวจในครั้งนี้คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่มีการดีเบตในปี 2559 ระหว่างปธน.ทรัมป์ และนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งผลปรากฏว่า 62% ของผู้รับชมการดีเบตมองว่า นางฮิลลารีทำผลงานได้ดีที่สุดในการดีเบต และมีเพียง 27% เท่านั้นที่มองว่า ปธน.ทรัมป์อภิปรายได้ดีที่สุด

 

ผลสำรวจระบุว่า ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ชมการดีเบตกล่าวว่า ในภาพรวมนั้นคำตอบของนายไบเดนมีความน่าเชื่อถือมากกว่าปธน.ทรัมป์ (ไบเดน 65%, ทรัมป์ 29%) และการพูดโจมตีของนายไบเดนที่มีต่อทรัมป์นั้น ผู้ชมส่วนใหญ่มองว่ามีความยุติธรรม โดย 69% มองว่าการโจมตีของไบเดนมีความยุติธรรม ขณะที่มีเพียง 32% ที่มองว่า การโจมตีของทรัมป์ต่อไบเดนนั้น มีความยุติธรรม

 

ในการสำรวจยังพบว่า ผู้รับชมการดีเบตส่วนใหญ่ชื่นชมการอภิปรายของนายไบเดน โดยกล่าวว่า พวกเขาเชื่อในคำพูดของนายไบเดนมากกว่าปธน.ทรัมป์ในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ (เชื่อไบเดน 66%, เชื่อทรัมป์ 29%), ประเด็นระบบประกันสุขภาพ (เชื่อไบเดน 66%, เชื่อทรัมป์ 32%), ประเด็นการระบาดของไวรัสโควิด-19 (เชื่อไบเดน 64% เชื่อทรัมป์ 34%) และประเด็นการเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุด (เชื่อไบเดน 54%, เชื่อทรัมป์ 43%)

ส่วนในประเด็นเศรษฐกิจนั้น 50% ของผู้ชมการดีเบตกล่าวว่า พวกเขาชอบการอภิปรายของไบเดน ขณะที่ 48% ชอบการอภิปรายของทรัมป์

 

อย่างไรก็ตาม 57% ของผู้รับชมกล่าวว่า การดีเบตครั้งแรกนี้ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา

 

ผลสำรวจหลังการดีเบตดังกล่าวจัดทำโดย SSRS ผ่านการสัมภาษณ์ผู้ชมทางโทรศัพท์ และรวมถึงการสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 568 คนที่ชมการดีเบตรอบแรก โดยผลการสำรวจอาจมีความคลาดเคลื่อนบวกลบไม่เกิน 6.3%