คาด โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรคนจน ดันเม็ดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน

29 ก.ย. 2563 | 09:12 น.

คลังแจงโครงการคนละครึ่ง-จ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจโต 0.25% ทั้งปีติดลบน้อยกว่า 8.5%

ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) มติเห็นชอบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนไปยังร้านหาบเร่ แผงลอยจำนวน 24 ล้านราย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 81,000 ล้านบาท ครอบคลุมประชาชน 24 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2563 และส่งแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องไปยังปี 2564 ได้ด้วย

 

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า วงเงิน 81,000 ล้านบาท ที่หมุนเวียนลงสู่ระบบ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ให้ขยายตัวดีขึ้นได้ ซึ่งผลักดันให้จีดีพีทั้งปีขยายตัวได้ 0.25% เพราะเป็นการใช้จ่ายที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในฐานรากเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ติดลบน้อยกว่า 8.5% ที่สศค.ประเมิน และอาจติดลบน้อยกว่า 7.8% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คาดการณ์

 

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะติดตามประเมินผลโครงการที่ออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งหากมีอะไรที่ต้องปรับแก้ไข ก็จะดำเนินการเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด ซึ่งในส่วนของร้านค้านั้น ปัจจุบันมีร้านค้าเดิมอยู่แล้วประมาณ 100,000 ร้านค้า และคาดการณ์จะมีร้านค้าย่อยเพิ่มขึ้นจากการลงทะเบียนใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 100,000 ร้านค้าได้ ขณะที่เงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเข้าให้กับผู้ถือบัตรหลังวันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นไป

คาด โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรคนจน ดันเม็ดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ร้านค้าที่ลงทะเบียนแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบร้าน เพื่อประเมินการเข้าโครงการอีกครั้งภายใน 3 วันหลังจากลงทะเบียน โดยระบบการลงทะเบียนทั้งของร้านค้าและประชาชนจะไม่ล่มแน่นอน เพราะมีระบบรองรับที่มีประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 200,000 คนต่อครั้ง

 

สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านราย จะมีการช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 เป็นวงเงินรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินส่วนนี้คาดการณ์ว่า จะก่อให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ

 

ส่วนโครงการคนละครึ่งจำนวน 10 ล้านราย โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและจะช่วยเติมกำลังซื้อของประชาชนเพื่อให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างต่อเนื่องเป็นเงิน 60,000 ล้านบาท

คาด โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรคนจน ดันเม็ดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน

 

ทั้งนี้ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. โดยผู้ได้รับสิทธิ์ต้องยืนยันตัวตนผ่าน g-Wallet แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้

 

ซึ่งการใช้จ่ายจะมีช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิ์ที่ถูกตัดจะนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ต่อไป

 

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาธนาคารกรุงไทย โดยธนาคารกรุงไทยจะช่วยติดตั้งแอพลิเคชั่น “ถุงเงิน” เพื่อใช้ในการรับชำระเงินจากการขายสินค้า

คาด โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรคนจน ดันเม็ดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน

คาด โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรคนจน ดันเม็ดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน