21 -27 ก.ย. ไทยรับมือฝนตกต่อเนื่อง

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ องค์การมหาชน คาดการณ์ฝนช่วงวันที่ 21 - 23 กันยายน 2563 ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้มีฝนตกปานกลางถึงหนักได้ในบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ช่วงวันที่ 24 - 27 กันยายน 2563 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกปานกลางถึงหนักได้ในบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก

ส่วนการคาดการณ์คลื่น ช่วงวันที่ 21 - 23 กันยายน 2563 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 1 - 1.5 เมตร 

ขณะที่สถานการณ์น้ำประจำวันที่ 21 กันยายน 2563 สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำฯ ได้สรุปข้อมูลมานำเสนอ โดยประกอบไปด้วย สถานการณ์เฝ้าระวัง คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 21 กันยายน  2563 

ส่วนที่ต้องเฝ้าติดตาม ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนมีน้อยลง โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักฯ รวมไปถึงเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ยังคงมีปริมาณน้ำใช้การน้อย

โดยสรุปสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทย มีกลุ่มเมฆฝนปกคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ส่วนปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางบริเวณทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดน่าน 122 มิลลิเมตร ตรัง 82 มิลลิเมตร ชัยภูมิ 82 มิลลิเมตร อุตรดิตถ์ 81มิลลิเมตร

เชียงใหม่ 79 มิลลิเมตร เชียงราย 77 มิลลิเมตร เลย 70 มิลลิเมตร เพชรบูรณ์ 63 มิลลิเมตร นครสวรรค์ 60 มิลลิเมตร แพร่ 60 มิลลิเมตร สุโขทัย 59 มิลลิเมตร จันทบุรี 48 มิลลิเมตร สุราษฎร์ธานี48 มิลลิเมตร แม่ฮ่องสอน 45 มิลลิเมตร ล าปาง 45 มิลลิเมตร ระยอง 44 มิลลิเมตร ตาก 41 มิลลิเมตร ตราด 39 มิลลิเมตร และเพชรบูรณ์ 36 มิลลิเมตร
 

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 35,480 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 50% ของความจุ โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การ 12,030 ล้านลูกบาศก์เมตร

ด้านระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญ  ในภาคเหนือมีระดับน้ำน้อยถึงระดับน้ำปานกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางมีระดับน้ำปานกลางถึงระดับน้ำมาก และอาจมีน้ำ ล้นตลิ่งต่ำบริเวณปากแม่น้ำในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ส่วนภาคใต้มีระดับน้ำน้อยถึงระดับน้ำปานกลาง 

โดยพบน้ำล้นตลิ่งดังนี้

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำป่าสัก ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำป่าสัก ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณลำน้ำพอง ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย โดยมีแนวโน้มระดับน้ำทรงตัว

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำตาดโตน ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ โดยมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณลำน้ำยัง ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณลำปะเทีย ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โดยมีแนวโน้มระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้น

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณลำน้ำชี ต. ไพศาล อ. ประโคนชัย จ. บุรีรัมย์ โดยมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณคลองชี ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง

• น้ำล้นตลิ่งบริเวณคลองฉลุง ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล จ.สตูล โดยมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง

ข้อมูล ณ วันที่ 21 กันยายน 2563 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จับตา พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย 28 ก.ย.

• 27 จังหวัด เจอพิษ พายุ “โนอึล” ถล่ม

• พยากรณ์อากาศวันนี้ เตือน 28 จังหวัดยังมีฝนตกหนัก