นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันไม่กังวล รวมถึงมีความพร้อมในการรับมือฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ภายหลังที่นายปรีดี ดาวฉาย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลาออกจากตำแหน่ง เพราะทำงานมาเกือบสองปีในรัฐบาลชุดนี้
ส่วนกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งข้อสังเกตเรื่องวุฒิการศึกษาของนายสันติ อาจมีผลต่อคุณสมบัติรัฐมนตรี นายสันติ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งตอนที่เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท และขณะนี้ตนได้เรียนจบปริญญาเอก เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สาขา รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ ตอนนี้กำลังรอรับพระราชทานปริญญาบัตรอยู่
หากจะถามเรื่องคุณวุฒิการศึกษาของตน ขอเรียนด้วยศักดิ์และสิทธิ์ ว่าถูกต้องทุกอย่าง แต่ถ้าตนพูดเอง อาจจะถูกตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงให้ไปถามที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะดีกว่า เพราะเรื่องนี้เมื่อสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเมื่อปี 2551 เคยถูกนำไปอภิปรายแล้ว และทางอธิการบดีในสมัยนั้นก็ได้ยืนยันว่า เป็นปริญญาที่ได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนเรื่องการพูดเรื่องความผิดพลาด อธิการบดี ได้ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาด ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วตนก็ได้ศึกษาต่อตามปกติ ไม่เกี่ยวกับตนสักหน่อย สมัยก่อนตนยังเป็นคนตัวเล็กๆ แต่เดี๋ยวนี้มันก็อย่างว่า มีทั้งคนรัก และคนชัง แต่เราตั้งอกตั้งใจทำงานก็พอแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าพร้อมที่จะนำหลักฐานการศึกษามาชี้แจงต่อสภาเพื่อให้เกิดความชัดเจนหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ให้ไปถามจากทางมหาวิทยาลัย จะดีที่สุด มาถามตนไม่มีประโยชน์ มีหรือที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะมาทำผิดๆ ให้ และข่าวนี้ก็เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ถ้าผิดจริงทำไมป่านนี้จึงยังไม่ถอนปริญญาบัตรไป ส่วนที่คนเพี้ยนๆ ไปพูดนั้น บ้านเมืองเสียหายมาเยอะแล้ว ที่คนมีปากก็เที่ยวไปพูดทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมีความพร้อมที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าพูดดีกว่า เดี๋ยวคนจะหมั่นไส้เยอะ
เมื่อถามว่า ขณะนี้สามารถเรียกว่า ดอกเตอร์สันติ ได้แล้วหรือไม่ นายสันติยิ้มเขิน และกล่าวว่า ยังไม่อยากให้เรียก เพราะยังไม่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร แต่สอบผ่านทุกอย่างแล้ว ผ่านหมดแล้วทุกขั้นตอน
นอกจากนี้ นายสันติ ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการซื้อเรือดำน้ำว่ามีหลายฝ่ายพูด ทั้งความจริงและไม่จริง ซึ่งไทยมีสองฝั่งทะเล มองว่าควรจะมีเรือดำน้ำ 3 ลำ เพื่อปกป้องและเฝ้าระวังทรัพยากรธรรมชาติ เรือประมง รวมถึงเรือสินค้า โดยถือว่าคุ้มค่า ยืนยันว่าปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะว่าทางจีนตั้งใจผลิตให้ทางประเทศไทยเป็นพิเศษโดยมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถอำพรางการมองเห็นจากฝ่ายที่ไม่หวังดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ต่อตระกูล" แฉปม "สันติ พร้อมพัฒน์" เคยถูกไล่ออกจาก ม. รามคำแหง?