หนุน"เชียงราย"ใช้ไมซ์ดูดท่องเที่ยว

28 ส.ค. 2563 | 10:03 น.

"สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย"ปรับโครงสร้าง ดึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมใต้ธงเดียวกัน เพื่อผนึกกำลังฝ่าวิกฤติโควิด-19 หนุนใช้"ไมซ์"ดึงดูดการท่องเที่ยว  

 

"สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย"ปรับโครงสร้าง ดึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมใต้ธงเดียวกัน เพื่อผนึกกำลังฝ่าวิกฤติโควิด-19 พร้อมขยายมุมมองสู่จังหวัดรอบข้าง และข้ามพรมแดนสู่อนุภูมิภาค หนุนใช้"ไมซ์"เป็นกลยุทธดึงดูดการท่องเที่ยว  

 

ที่ประชุมคณะกรรมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้ ประจำปี พ.ศ.2563 มีมติประกาศให้จังหวัดสงขลา และนครราชสีมา เป็นเมืองไมซ์ลำดับที่ 6 และ 7 ของประเทศ ทำให้จังหวัดต่าง ๆ เร่งเสริมศักยภาพและใช้ “เมืองไมซ์” เป็นกลยุทธ์ดึงดูดการท่องเที่ยวเข้าพื้นที่  ด้านจังหวัดสงขลา ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) และเครือข่ายพันธมิตร 16 องค์กร ร่วมเปิดสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จังหวัดสงขลา (Songkhla Convention and Exhibition Bureau) หรือ SCEB สงขลา  เพื่อเป็นหน่วยงานในการยกระดับเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดประชุม งานแสดงสินค้า และอีเวนต์ระดับนานาชาติ อย่างเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป และจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนา การจัดประชุมและนิทรรศการในจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมกันพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ให้เติบโตครบวงจรทั้งนิเวศธุรกิจ ขณะที่คณะวิทยาการจัดการ ม.อ. เปิดสอนสาขาการจัดการไมซ์ เพื่อสร้างกำลังแรงงานป้อนตลาด

โดยที่อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เติบโตรวดเร็ว เป็นการท่องเที่ยวจากฐานการจัดประชุมองค์กร การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การประชุมวิชาการ งานแสดงสินค้า และนิทรรศการนานาชาติ รวมทั้งงานกิจกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำนักเดินทางคุณภาพและมีค่าใช้จ่ายสูงเข้าพื้นที่จำนวนมาก โดยนโยบายจากภาครัฐมีการส่งเสริมภาพลักษณ์ กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยมีภาคธุรกิจขานรับเพื่อรองรับการจัดงานได้ตั้งแต่ตั้งแต่ระดับจังหวัด ประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติ จังหวัดต่าง ๆ ทั้งที่ได้รับยกระดับเป็นเมืองไมซ์ หรือที่พยายามเสนอตัวต่างเร่งใช้เป็นกลยุทธ์ดึงดูดคนเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อฟื้่นเศรษฐกิจ 

หนุน"เชียงราย"ใช้ไมซ์ดูดท่องเที่ยว    
เครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวเชียงราย ก็ผนึกกำลังฝ่าวิกฤติโควิด-19  และสนใจใช้"ไมซ์"เป็นกลยุทธ์ดึงดูดการท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ โดยเมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเดอะ เฮอริเทจ เชียงราย ถนนพหลโยธิน ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมเครือข่ายการท่องเที่ยวเชียงรายเพื่อความยั่งยืน จัดโดยคณะกรรมการสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ (สสทน.) จังหวัดเชียงราย ร่วมกับสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 

 

กิจกรรมนี้เป็นการจัดประชุมระหว่างเครือข่ายการท่องเที่ยวในเชียงรายขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติไวรัสโควิด - 19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยทางสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย ได้เปิดตัวการพัฒนาโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยมีภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเข้าร่วม   ประกอบด้วยสมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย สมาคมมัคคุเทศน์เชียงราย สมาคมเครือข่ายท่องเที่ยวเชียงราย ชมรมน้ำพุร้อนและสปาเชียงราย ชมรมรถเช่าเชียงราย ชมรมพ่อครัวไทยเชียงราย เครือข่ายประชาคมอาหารเพื่อสุขภาพ ชมรมร้านอาหารจังหวัดเชียงราย เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชียงราย และชมรมแฟชั่นล้านนา 

 

เป็นการผนึกกำลังเพื่อร่วมขับเคลื่อนต่อสู้กับวิกฤติ และรองรับเมื่อวิกฤติได้ผ่านพ้นไปแล้ว และมีการประชาสัมพันธ์บรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว รวมทั้ง ได้มอบประกาศนียบัตรมาตรฐาน "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ SHA" แก่สถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน และจัดตลาดนัดเครือข่ายท่องเที่ยวเชียงรายที่ยั่งยืนด้วย

     

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวด้วยว่า จังหวัดเชียงราย มีศักยภาพและเอกลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และที่ผ่านมาภาคเอกชนก็มีการจัดตั้งเป็นองค์กรต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างหลากหลาย โดยมีทั้งสมาคม ชมรม กลุ่มองค์กร ฯลฯ ต่าง ๆ มากมาย      

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชียงราย - แม่ฮ่องสอน คุมเข้มชายแดนหลังโควิดระบาดหนักที่เมียนมา

โรงแรมเชียงรายขอขยาย"เราเที่ยวด้วยกัน"ถึงหน้าหนาว

"ไทยเวียตเจ็ท"เสียบแทน"แอร์เอเซีย"เปิดบินตรง"เชียงราย-หาดใหญ่"

 

หนุน"เชียงราย"ใช้ไมซ์ดูดท่องเที่ยว

หนุน"เชียงราย"ใช้ไมซ์ดูดท่องเที่ยว

ดังนั้น การที่สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดระบบองค์กรครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นการนำองค์กรที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกัน เพราะจังหวัดเชียงรายไม่ได้เป็นแค่ภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงใน สปป.ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ จึงต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อรองรับเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลายเมื่อมีการเปิดเส้นทางต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป

     ด้านนางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย ยังได้กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ทำให้กลายเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเมืองรอง 55 เมืองในประเทศไทย และยังได้รับรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้ง เมื่อเกิดวิกฤติไวรัสโควิด - 19 ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง 

    ดังนั้น ในขณะที่สถานการณ์การระบาดภายในประเทศอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้แล้ว ทางจังหวัดเชียงรายจึงได้พัฒนาและฟื้นฟูกิจการเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่วนในระยะยาวจะมีการผลักดันให้เชียงรายไปสู่ระดับสากลโดยอาศัยจุดแข็งต่าง ๆ ที่มีอยู่ของทรัพยากรและทุนทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้วต่อไป

     ด้าน ดร.จุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคเหนือ กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบการประชุมและนิทรรศการหรือ MICE สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาคเหนือได้ โดยเฉพาะเพื่อเติมเต็มกรณีรายได้ของประชากรในภาคเหนือที่ยังไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย โดยอาศัยทุนทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการส่งเสริมก็จะใช้ "เชียงใหม่โมเดล" ในการขับเคลื่อน คือการอาศัยจุดแข็งที่มีอยู่ และร่วมกับผู้ประกอบการ ชุมชน ภาครัฐ ท้องถิ่น และอีกหลายองค์กรด้วย

หนุน"เชียงราย"ใช้ไมซ์ดูดท่องเที่ยว