วันที่ 25 ส.ค. 63 ที่โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ซึ่งถือเป็นการประชุมครม.สัญจร ครั้งแรกหลังการปรับคณะรัฐมนตรีและการผ่อนคลายสถานการณ์โควิด-19
โดยวาระการประชุมที่สำคัญในวันนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งจะเสนอการปรับปรุงใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 4 แสนล้านบาท ในส่วนของการใช้ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะขยายสิทธิจำนวนห้องพักต่อรายเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 คนไม่เกิน 5 คืน เป็น 10 คืน เพิ่มวงเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจากคนละไม่เกิน 1,000 บาท เป็นไม่เกิน 2,000 บาท พร้อมทั้งปรับปรุงให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เข้าร่วมโครงการได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เราเที่ยวด้วยกัน" ชง ครม.สัญจร ระยอง เพิ่มแรงจูงใจ
ชลบุรียืน 1 เช็ก-อินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
รวมทั้งจะมีการนำเสนอผลประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) กับหน่วยงานและภาคเอกชนในท้องถิ่น โดยมีโครงการที่เกี่ยวข้อง 4 ด้านหลักประกอบการ การพัฒนาน้ำ, โครงสร้างพื้นฐาน,การท่องเที่ยว และภาคเกษตร เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของภาคตะวันออกขยายตัวอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เสนอ โครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน(Sustainable Manufacturing Center :SMC )ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : เมืองนวัตกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบอัจฉริยะ ( EECi-ARIPOLIS For BCG)
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เสนอ ขออนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 -2565 ตามแผนปฏิบัติการบูรณาการ ขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 3 (พ.ศ.2564-2565) ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พร้อมพม.เสนอการต่ออายุสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี วงเงิน 500 ล้านบาท ของสำนักงานธนานุเคราะห์
กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) ขออนุมัติร่างความตกลงโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ระหว่างกระทรวงต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬาแห่ง ราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการพัฒนาสถาบันเทคโนโลยีกำปงเฌอเตียลและสถาบันเทคโนโลยีกำปงสปือ
ส่วนวาระเพื่อทราบ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงาน รายงานผลความก้าวหน้าการเร่งขับเคลื่อนมาตราการส่งเสริมให้ความช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรรยากาศ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ กศน. พรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ ONE (จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี) ชมผลงานนวัตกรรม : แอปพลิเคชั่น depa 2.5 โครงการพัฒนาระบบท่าเรืออัจฉริยะ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง /โครงการ Circular Living โดยกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่วันนี้ นาย คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี นำเสนอ จีซี รายงานสถานการณ์นักเรียนยากจนพิเศษที่เพิ่มขึ้นหลังได้รับผลการกระทบจากวิกฤตโควิด -19
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหา แต่หากมีมาตรการเตรียมการป้องกันมีมตรการที่ดีพอ ก็สามารถขับเคลื่อนงานทุกอย่างได้ ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ใช่เฉพาะการแก้ปัญหาโควิดอย่างเดียว แต่นำไปใช้ได้ทุกๆเรื่อง และวันนี้การที่จะทำให้การแก้ปัญหาโควิด 19 ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกคนต้องมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ว่าเรามีมตรการดูแลที่ดีพอ สิ่งสำคัญต้องไม่ตื่นตระหนก และรับข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอ และเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ นายกฯได้พูดคุยกับประชาชนที่มารอต้อนรับ ใจความวว่า ตนเองเมื่อยู่ท่ามกลางประชาชนแล้วปลอดภัย ตนเองเชื่อมั่นว่าสังคมต้องการความสงบเรียบร้อยและปลอดภัย ส่วนใครที่ทำให้สังคมเกิดความไม่สงบเรียบร้อยก็ต้องรับผิดชอบ พร้อมทั้งขอบคุณและให้กำลังใจทุกๆคน ย้ำรัฐบาลจะส่งเสริมทุกกิจกรรม ของทุกกระทรวง แต่เรื่องสำคัญคือทุกคนต้องช่วยกัน ร่วมใจกัน ตามแนวทางรวมไทยสร้างชาติ และสิ่งสำคัญคือต้องคิดและทำให้กับเด็ก และเยาวชน เพราะเป็นอนาคตของชาติ
นอกจากนี้ ระหว่างเยี่ยมชนนิทรรศการ นายกฯได้ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำงานแก้ปัญหาเต็มที่ ไม่นิ่งนอนใจให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกกลุ่ม
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ก่อนเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563