แฉ “ทหารอียิปต์” มีคนหนีจากที่พัก “ผอ.อู่ตะเภา” ยันตรวจโควิดเข้มแล้ว 

13 ก.ค. 2563 | 11:02 น.

ผอ.สนามบินอู่ตะเภา เผย 1 ในคณะทหารอียิปต์ หนีออกจากที่พัก ยันขั้นตอนคัดกรอง “ทหารอียิปต์” ยันตรวจแล้วไม่พบ ส่งต่อให้ สธ.ระยองรับช่วงต่อ

 วันที่ 13 ก.ค. พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์  ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา  กล่าวถึงกรณีที่มี "ทหารอียิปต์" เข้าพักในโรงแรม จังหวัดระยอง และมีการตรวจพบการติดเชื้อโควิด -19 ยืนยันว่า อู่ตะเภาจะมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงาน ที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาปฏิบัติงาน ร่วมกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ทำการคัดกรองโรคหรือสอบสวนโรค PUI

 

หากไม่พบผู้ต้องสงสัย หรือไม่มีผู้ใดพฤติการณ์ที่เสี่ยงต่อการติดต่อของโรค หรือไม่พบภาวะผิดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลง และส่งต่อไปเข้าที่พัก  ส่วนที่รับผิดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง  เพื่อรอการประเมินการคัดกรองทาง State Quarantine ก็จะรับไป 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วุ่นแล้ว ศบค. เผยข้อมูล “ทหารอียิปต์” ติดโควิดเดินห้างในระยอง

ปม “ทหารอียิปต์” ติดโควิดป่วน ผู้ว่าฯ ระยองสั่งกักตัว 2 พนักงานโรงแรม

เปิดไทม์ไลน์ "ทหารอียิปต์”ติดโควิด พักรร.ระยอง-เดินห้าง

สธ.ระยอง เร่งตรวจเชื้อกลุ่มเสี่ยง สัมผัสใกล้ชิด "ทหารอียิปต์”ติดโควิด(มีคลิป)

 

“ทราบว่าคณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่ามีเพียงหนึ่งคนในคณะนั้นที่หนีออกมาข้างนอกระหว่างที่เข้าพัก แต่ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ตรวจสอบกับทางศบค.อีกครั้ง” พล.ร.ท.กฤชพล กล่าว

สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภา พล.ร.ท.กฤชพล  ย้ำว่า ต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ศบค.กำหนด  โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของศบค. ที่นายกรัฐมนตรีลงนามไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการออกกฎ กติกา การบริหารจัดการต่างๆ

“ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจสนามบินไม่พบความผิดปกติ ซึ่งการตรวจสอบก็ทำด้านนอกเทอร์มินอล ไม่ได้เข้ามาปะปนกับในอาคารผู้โดยสาร  เพราะเป็นลักษณะของ State aircraft  มีการแจ้งเข้า-ออก ในประเทศล่วงหน้าและต้องรับอนุญาตในเรื่องแผนการบิน และตารางการอยู่ในประเทศ  ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วที่ประเทศต้นทางจะต้องประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศไทย  สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นขั้นตอนทางการทูต หรือ diplomatic clearance  ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่มีอำนาจในการตรวจสอบตามมาตรการที่กำหนดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส”