"สมคิด" สั่งคลังงัดมาตรการดึง"คนรวย"ใช้จ่าย

02 ก.ค. 2563 | 06:42 น.

"สมคิด" สั่ง"คลัง"หามาตรการกระตุ้น "คนรวย" ใช้จ่าย ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน พร้อมสั่งคลัง-ธปท หาแนวทางช่วยผู้ประกอบการหลังพักชำระหนี้ครบ 6 เดือน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือมาตรการเศรษฐกิจ ที่กระทรวงการคลัง ว่าได้สั่งการให้กรมสรรพากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งหามาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพื่อเสริมมาตรการท่องเที่ยวที่จะออกมาในขณะนี้ โดยเบื้องต้นอยากดึงเงินจากผู้มีกำลังซื้อใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น 

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ สศค.ไปหาแนวทางการส่งเสริมท่องเที่ยวท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า โรงงานหลายแห่งถูกปิด แรงงานกลับท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากเกิดการท่องเที่ยวชุมชนมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการจ้างงาน 

“วิกฤติครั้งนี้ ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น ปัญหาสำคัญคือการจ้างงาน อย่างสหรัฐมีคนตกลง 25-30 ล้านคน ส่วนไทยเราต้องเร่งช่วยเหลือ จะทำอย่างไร เพื่อให้เงินกระจายไปสู่พี่น้องประชาชนที่ลำบาก โดยขอให้ทุกอย่างแล้วเสร็จภายในกลางเดือน ก.ค.นี้ให้ได้”นายสมคิด กล่าว 

ขณะเดียวกันยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปหาแนวทางในการช่วยเหลือภาคธุรกิจเพิ่มเติม หลังพักชำระหนี้ครบ 6 เดือนแล้วด้วย เนื่องจากว่าปัญหาโควิด-19 ทำให้แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของผู้ประกอบการสูงขึ้น ทำให้ประสบปัญหาได้

 

"สมคิด" สั่งคลังงัดมาตรการดึง"คนรวย"ใช้จ่าย

 

นายสมคิด ยังกล่าวถึง กรณีที่ผู้ประกอบการบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสินเชื่อคงค้างเกิน 500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ของธปท.ได้ นั้น ได้ให้กระทรวงการคลังเร่งหารือกับธปท. ว่าจะผ่อนคลายเงื่อนไข ซึ่งจะรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมพิเศษ กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และกลุ่มอุตสาหกรรมการบิน โดยจะต้องแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนก.ค.นี้ 

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS9 เพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนของธปท.ได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ สศค. และ บสย. และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ 

ส่วนเรื่องการจ้างงาน จะเน้นการจ้างงานให้เกิดขึ้นในชุมชนมากที่สุด โดยส่วนแรกจะเป็นการสนับสนุนให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เข้าไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ เช่น พัฒนาร้านอาหาร การสร้างอาชีพ การเกษตร รวมถึงให้มีการจ้างชาวบ้านลงพื้นที่เพื่อเก็บฐานข้อมูลเพื่อดำเนินในโครงการต่างๆของภาครัฐ ซึ่งในเบื้องต้น คาดว่าจะทำให้มีการจ้างงานใหม่ 400,000 คน 

ขณะที่มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อสำหรับคนรวยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบ ต่างๆ รวมถึงมาตรการทางด้านภาษีจะเป็นส่วนหนึ่งด้วย โดยจะเป็นอีกส่วนที่จะมาเสริมกับมาตรการท่องเที่ยวในประเทศ 

“ถ้าการท่องเที่ยวมันได้ผล ก็ต้องดูว่าอะไรจะเสริมได้ เป็นการต่อยอด ซึ่งอาจเอารูปแบบชิมช้อปใช้มาใช้ รวมถึงดูพร้อมกับสิทธิลดหย่อนภาษีด้วย โดยกระตุ้นการบริโภคกลุ่มคนมีเงิน เพราะวิกฤติครั้งนี้กระทบกับอุปสงค์ โดยมาตรการนี้ถือเป็นการกระตุ้นให้คนไปท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อดึงเงินในกระเป๋าคนมีเงินมาใช้จ่ายให้ได้อย่างวันหยุดต่างๆ ที่ผ่านมาพบคนไปเที่ยวเยอะมากซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะเข้าไปกระตุ้นตรงนี้"นายอุตตม กล่าว 

ส่วนการขยายเวลาการพักชำระหนี้ของภาคเอกชนนั้น จะต้องหารือกับธปท.ก่อน แต่จะขยายนานแค่ไหนนั้น คงไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้