มาแน่ "พายุดีเปรสชัน" ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก

12 มิ.ย. 2563 | 10:31 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน" ส่งผลกระทบทั่วไทยมีฝนตกหนักตั้งแต่ 13 - 16 มิถุนายน ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังน้ำท่วมฉับพลัน

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศฉบับที่ 2 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เวลา 16.00 น.  พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กม/ชม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม/ชม 
คาดว่าพายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 14-15 มิถุนายน 2563 


ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 13-16 มิถุนายน 2563 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
 

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ วันที่ 13 มิถุนายน 2563 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดหนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ,ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ,ภาคใต้ ได้แก่  จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


ในช่วงวันที่ 14 - 15 มิถุนายน 2563 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี


ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ,ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด  ภาคใต้ ได้แก่  จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
 

วันที่ 16 มิถุนายน 2563 ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม ,ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ได้แก่  จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา


สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง