ภูเก็ต ซ่อม-สร้างแก้ว่างงาน พร้อมพุ่งทะยานหลังโควิด

16 พ.ค. 2563 | 02:00 น.

เกาะภูเก็ตในสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เจอศึกหนักทั้งจากภาวะการแพร่ระบาดที่รุนแรงเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ-นนทบุรี ต้องใช้ “ยาแรง” ด้วยมาตรการปิดล้อมระดับตำบลทั่วเกาะ ทั้งแรงกระแทกทางเศรษฐกิจที่ชีพจรหลักมาจากการท่องเที่ยว

เมื่อผู้คนหยุดสัญจรทั่วโลก เม็ดเลือดเศรษฐกิจของภูเก็ตก็แห้งเหือด แต่ทุกวิกฤติมีจุดสิ้นสุด “ธนูศักดิ์ พึ่งเดช” ประธานคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดภูเก็ต มอง “โอกาส” และมีข้อเสนอเตรียมพร้อมภูเก็ตหลังโควิด-19

ภูเก็ต ซ่อม-สร้างแก้ว่างงาน พร้อมพุ่งทะยานหลังโควิด

สถานการณ์แพร่ระบาดภูเก็ต

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณประชาชนคนไทย ที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุงแก้ไขและจัดการโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ภาคเอกชนทุกหน่วยงาน และภาคราชการทุกหน่วยงาน ที่รบและสู้และทำให้บ้านเมืองเราสงบ สามารถหยุดโควิดได้ ขอให้มีกำลังใจ ท่านไม่ได้โดดเดี่ยว กำลังใจทุกกำลังใจ หอการค้าและประชาชนทุกคน ที่จะสนับสนุนให้สู้ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ของเราที่สร้างผลงานระดับโลก โดยเฉพาะที่ภูเก็ตนั้นผมเชื่อมั่นสุดๆ ว่าเอาอยู่แล้ว ขอขอบคุณข้าราชการทั้งท้องถิ่นและข้าราชการการเมืองทุกคน ที่ได้ช่วยให้จังหวัดเราควบคุมโรคได้

วันที่ภูเก็ตปิดเมืองและมีด่านคัดกรอง ทุกคนมีความน่ารัก ทุกคนอดทน และทุกคนเชื่อฟัง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงาน

รวมทั้งมีภาคเอกชนมาสร้างกองทุนมาดูแลโรงพยายาลสนามหนึ่ง และมีภาคประชาชนมาบริจาคสิ่งของเยอะแยะมากมายล้นหลาม ในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ขอเป็นกำลังใจและขอบคุณแทนพี่น้องประชาชน ผมเชื่อมั่นว่าโควิด-19 จะถูกพิชิตได้ด้วยน้ำใจของคนไทย ของคนภูเก็ต และทำให้บ้านเมืองเรามีวัฒนธรรมใหม่ มีนิว
นอร์มอลใหม่ ที่เกิดจากทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน ผมภูมิใจที่ได้มาอยู่ในประเทศไทยในวันนี้ เป็นภารกิจที่สำคัญ เป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่าน

 

สถานภาพธุรกิจในภูเก็ต

เท้าความกลับไปเมื่อ 13 มีนาคมที่เราพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกจนถึงวันนี้ จังหวัดภูเก็ตพยายามแก้ปัญหามาในหลายวิธีการ มีการใช้ปฎิบัติการเชิงรุกโดยภาคเอกชนใช้การทำธุรกิจเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรงพยาบาลสนาม หรือการที่มีมูลนิธิฯมีกองทุนขึ้นมาช่วยสนับสนุน ภาครัฐเองก็เริ่มตั้งหลักได้แล้วและทำได้ดีขึ้นในระยะหลังมานี้

เรียนว่าภูเก็ตปิดเมือง ไม่ต้องพูดกันถึงเรื่องผลประโยชน์ แต่เรายอมเจ็บเพื่อให้จบ ปัญหาของเราวันนี้คือ แทบจะไม่มีธุรกิจเหลือให้เดินได้เลยในจังหวัดภูเก็ต ทุกท่านทราบดีว่าภูเก็ตมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว เมื่อท่องเที่ยวจบ ทุกอย่างก็ต้องชะลอตัวและดาวน์ไซส์ลงไปเรื่อยๆ

 

ร่วมใจฝ่าวิกฤติความอดอยาก

มามีปัญหาสุดๆ ก็ตั้งแต่ 13 เมษายนมาจนถึงทุกวันนี้ ภาคเอกชนให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ หยุดกิจการแทบทั้งหมด ไม่ไปมาหาสู่ ไม่เคลื่อนไหว ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนที่ตกงาน ว่างงาน และไม่มีจะกินอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในระดับโลก ระดับประเทศ ผมถือว่าหนักกว่าปัญหาใดๆ ที่เคยเผชิญมา ทุกคนปิดตัวอยู่บ้าน ไม่มีงานทำ บางคนถึงขั้นอดอยาก

แต่ความมีน้ำใจของคนภูเก็ต ความมีน้ำใจของภาครัฐและภาคเอกชน ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้วิกฤติของความอดอยากเกิดขึ้น และก็ทำได้ดีครับ เรามีการแจกจ่ายอาหารของทุกๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกเทศบาล ทุกส่วนของตำบล เรามีการแจกจ่ายอาหารของเอกชนที่เป็นเศรษฐีใจบุญ มีน้ำใจ

เราหยุดความอดอยากขาดแคลนด้วยถุงยังชีพและอาหารที่่แจก ทำให้ประเทศเราไม่มีปัญหาเหมือนในประเทศอื่นเขาที่เราได้เห็นในคลิปวิดีโอที่มีการแย่งชิงกัน

ท่ามกลางความอดทนและเสียสละเฝ้ารอการทำงานของภาครัฐ เพื่อจะหยุดเชื้อ และเราก็ทำสำเร็จ ณ วันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่น้อยลง บางทีเป็นศูนย์ บางวันเป็นหนึ่ง นั่นแสดงว่าเราเริ่มควบคุมมันได้แล้ว

ส่วนธุรกิจวันนี้ไม่ต้องพูดเลย ภาคท่องเที่ยวเป็นศูนย์แล้ว ภาคธุรกิจอื่นๆ ก็ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องสินเชื่อซอฟต์โลน และการอัดฉีดเงินเข้ามา

 

ต้องทำอะไรต่อ

สิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไปคือ เปิดการไปมาหาสู่กันระดับตำบลโดยเร็วที่สุด ทางหอการค้าฯได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว ว่าขอให้เปิดรอยต่อระหว่างตำบล เพื่อลดความกดดันของผู้ที่ไม่มีงานทำ ผู้ที่ต้องประกอบอาชีพ จะได้เริ่มการไปมาหาสู่กันเริ่มการทำงาน ลดคนว่างงานลงให้ได้มากที่สุด

ประเด็นต่อมาคือ ภาครัฐต้องสนับสนุนสินเชื่อซอฟต์โลน และการเงิน ภูเก็ตต้องการเงินอัดฉีดเข้ามาพัฒนาเมืองหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการซ่อม การสร้าง การปรับปรุงเรื่องของโรงแรม เพื่อเตรียมพร้อมรับการกลับมาของการท่องเที่ยวรอบใหม่ในไฮซีซั่นหน้า ซึ่งเราคาดกันว่าน่าจะเป็นพฤศจิกายน 2563 หรือมกราคม  2564 เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราต้องการงบประมาณ และการเงินมาสนับสนุน จากธนาคาร สถาบันการเงิน รวมถึงผู้ให้บริการการเงินที่มิใช่แบงก์(นอนแบงก์) ต่างๆ เพราะจะเอามาช่วยให้เกิดการซ่อมสร้างโรงแรม ซ่อมสร้างบ้านเรือน ซ่อมสร้างรีสอร์ต หรือซ่อมสร้างเมือง ขณะเดียวกันคนที่ว่างงานก็จะได้มีงานทำ

ในเมื่อรายรับทางตรงที่จะมาจากการท่องเที่ยวต้องหายไปหลายเดือนนับจากนี้ ถ้าเราสามารถสร้างงานของราชการ เอกชน ทำให้ทุกคนที่ว่างงานอยู่ได้มีงานทำได้ โดยรัฐบาลหรือสถาบันการเงินอัดฉีดเม็ดเงินมาให้เราได้ ผมเชื่อว่าภูเก็ตจะกลับคืนมาฟื้น และพร้อมที่จะกลับมาหาเงินให้ประเทศไทยได้เหมือนหลายปีที่ผ่านมา ถ้าเราพร้อมและเราสามารถซ่อมสร้างบ้านเมืองได้ในวันนี้

สิ่งที่จะตามมาคือ เราจะพร้อมกว่าปีนัง เราจะพร้อมกว่าบาหลี เราจะพร้อมว่าสิงคโปร์ เราจะพร้อมกว่าดานัง เราจะพร้อมกว่าหลายๆ คู่แข่งทางการค้า และการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต