"คมนาคม."ยันคุมเข้มมาตรการ บก น้ำ อากาศรับคลายล็อกดาวน์

08 พ.ค. 2563 | 14:05 น.

"ปลัดคมนาคม"ยันคุมเข้มมาตรการ บก น้ำ อากาศรับคลายล็อกดาวน์  ชี้สถานการณ์โควิด จำกัดคนขึ้นรถไฟฟ้าเพียง1ใน4 จากภาวะปกติ วอนปชช.เข้าใจเหตุสถานการณ์ไม่ปกติ

8 พ.ค.63- นายชัยวัฒน์  ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงมาตรการด้านคมนาคม  ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า   การจัดการขนส่งสาธารณะทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ในช่วงวิกฤติโควิด-19 มีการออกประกาศ คำสั่ง ควบคุมพื้นที่ ควบคุมกิจกรรม และกำหนดเวลาการเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว  โดยกระทรวงคมนาคมบริหารจัดการ โดยมีการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถโดยสารระหว่างจังหวัด ให้มีการลดหรืองดเดินรถจำนวน 203  เส้นทาง จาก 800 กว่าเส้นทาง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะที่การเดินทางโดยรถไฟระหว่างจังหวัด จากปกติวันละ 500 ขบวนลดลงเหลือ  43 ขบวนต่อวัน และวิ่งระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตรเท่านั้น  เนื่องจากจะติดช่วงเวลาเคอร์ฟิว

นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.เป็นต้นมารัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรม จึงเป็นที่มาในการเดินทางของประชาชน  โดยกรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางทั้งกทม.และปริมณฑลจำนวนมาก และมีการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นหลัก ทำให้เกิดความหนาแน่นและแออัด  ตนขออภัยและขอชี้แจง ว่าเนื่องจากเกิดความขัดข้องของระบบไม่สามารถเดินรถได้ 3-4 ขบวน และการควบคุมการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงกำหนดจำนวนผู้โดยสารเข้าไปในขบวนรถได้ยากมาก ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ  

\"คมนาคม.\"ยันคุมเข้มมาตรการ บก น้ำ อากาศรับคลายล็อกดาวน์

และในวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันหยุด  จึงได้ให้หน่วยงานจัดเตรียมระบบซักซ้อมการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีประชาชนให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามข้อแนะนำต่างๆที่กำหนดไว้  ทั้งนี้ ปกติรถไฟฟ้าบีทีเอส 1 ขบวน บรรจุผู้โดยสารได้ 1,000-1,100 คน แต่เมื่อมีมาตรการระยะเว้นห่างทางสังคม ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข  ผู้โดยสารจึงเหลือขบวนละเพียง 250 คนเท่านั้นลดลงเหลือ 1 ใน 4 ซึ่งถือเป็นความจำเป็นที่ต้องลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของผู้ใช้บริการ  อย่างไรก็ตาม รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะด้านอื่นๆทั้งรถโดยสารประจำทาง และการโดยสารทางเรือ ก็จะใช้มาตรการเดียวกัน คือมีการคัดกรอง การรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยและทำความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จะต้องมีการเพิ่มความถี่ของการเดินรถให้เพียงพอหรือไม่นั้น ความจำเป็นในการเว้นระยะห่างจะต้องมี และเมื่อมีคนใช้บริการมากขึ้นจำเป็นต้องปรับขบวน  เพิ่มขีดการเดินรถให้เต็มพิกัด ซึ่งมีการเก็บข้อมูลและหน่วยงานต่างๆมีการปรับการเดินขบวนรถให้มากขึ้น  แต่ไม่สามารถเพิ่มให้ถี่มากขึ้น เพราะต้องเว้นระยะเวลาการให้บริการในแต่ละช่วงขบวนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 นาที ถ้าน้อยกว่านี้อาจเกิดความไม่ปลอดภัย

\"คมนาคม.\"ยันคุมเข้มมาตรการ บก น้ำ อากาศรับคลายล็อกดาวน์

"แม้ปรับขบวนรถให้มีความถี่มาก แต่จำนวนผู้โดยสารที่รอเข้าคิวขึ้นรถเป็นจำนวนมาก  เราจำเป็นต้องจัดพื้นที่การให้บริการเป็นช่วงๆตั้งแต่เข้าสถานี และเข้าขบวนรถ จึงขอให้เข้าใจว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ"

ส่วนการการเดินทางอากาศในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมี 5 สายการบินเปิดให้บริการ ในพื้นที่ ท่าอากาศยาน 18  แห่ง เพื่อรองรับผู้โดยสารเดินทางในประเทศเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. เพื่อให้เหลือเวลาในช่วงก่อนเวลาเคอร์ฟิว และการเดินทางไปในแต่ละจังหวัด  จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของแต่ละจังหวัดด้วยว่ามีมาตรการอย่างไร  เพราะบางจังหวัดผู้เดินทางเข้าไปจะต้องโดนกักตัวอยู่บ้าน 14 วันเป็นต้น  ส่วนสายการบินต่างประเทศยังอยู่ในความควบคุมของศบค.

\"คมนาคม.\"ยันคุมเข้มมาตรการ บก น้ำ อากาศรับคลายล็อกดาวน์