“สมคิด”ฉีด 4 แสนล้านเน้นลงเศรษฐกิจฐานราก

22 เม.ย. 2563 | 08:00 น.

รองนายกรัฐมนตรีเผยเตรียมนำ พรก.เงินกู้ 4 แสนล้านเยียวยา ชี้เน้นไปที่เศรษฐกิจฐานราก เหตุส่งออกและการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือเพื่อหาให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่กระทรวงอุตสาหกรรมว่า จะนำเงิน พรก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทมาเยียวยา โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ หรือเศรษฐกิจฐานราก (โลคอลอิโคโนมี) เป็นหลัก เพราะต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่ภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยวจะดีขึ้นได้ภายในปีนี้ ดังนั้นจึงต้องมาเน้นเรื่องการบริโภคในประเทศและการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐเป็นหลัก

“สมคิด”ฉีด 4 แสนล้านเน้นลงเศรษฐกิจฐานราก

ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง  และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กลับต่างจังหวัดมีการผลิตมีรายได้ ซึ่งกระทรวงอื่น ๆ สามารถเข้ามาร่วมได้ และส่วนนี้ภาคเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และเป็นทางรอดของเศรษฐกิจไทย เพราะขณะนี้เศรษฐกิจต่างประเทศต่างก็ย่ำแย่  โดยอีกไม่นานมาตรการเรื่องโลคอลอิโคโนมีจะทยอยออกมา ช่วยกันประคองเศรษฐกิจให้ข้ามปีนี้ไป แม้ปีนี้จะมีการทำนายว่าเศรษฐกิจทั่วโลกติดลบแน่นอน แต่ตนเชื่อว่าไทยสามารถผ่านพ้นไปได้ ขออย่างเดียวขอให้คนเราพอมีพอกิน

ฝากให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศซึ่งมีความจำเป็นมาก  โดยหลายคนที่ตกงานและกลับไปสู่ภูมิลำเนา อยากให้คนเหล่านี้กลับเข้าสู่ภาคเกษตร กระทรวงคลังต้องร่วมกับ ธกส. จัดทำมาตรการออกมา และให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายหรือหมุนเวียนสินค้าเกษตรให้สามารถขายได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการพัฒนาสินค้าโอทอปด้วย ซึ่งเรื่องนี้มองว่าจะเป็นทางรอดของคนไทย” 

อย่างไรก็ดี  การส่งออกนั้น ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าบางกลุ่มกลับเข้ามาบ้างแล้ว  โดยการส่งออกอาหารถือว่ายังมีโอกาสที่ดี  ซึ่งการที่ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งเป็นเรื่องธรรมดา  โดยจะต้องใช้เวลานี้ช่วงชิงความได้เปรียบจากเวียดนามและมาเลเซียในการส่งออกอาหารและสิ่งทอไปยังอเมริกา ซึ่งตนได้มอบหมายให้ตัวแทนกรมสรรพากรนำเรื่องที่ภาคเอกชนต้องการให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทุกธุรกิจ 3 ปี คือ ระหว่างปี 2563-2565 โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะเข้าสู่ระบบ e-filling ว่าจะทำได้หรือไม่

“สมคิด”ฉีด 4 แสนล้านเน้นลงเศรษฐกิจฐานราก

สำหรับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกซอฟโลนรวมกว่า 9 แสนล้านบาท ทำให้ภาคการเงินนิ่ง ตลาดตราสารหนี้ได้รับการดูแล รวมถึงการขยายการค้ำประกันเงินฝากที่เพียงพอ จึงทำให้สามารถมาดูแลการเยียวยาในภาคอุตสาหกรรมที่ถูกกระทบหนักได้อย่างเต็มที่

นายสมคิด กล่าวต่อไปอีกว่า  มาตรการที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นั้น เน้นให้ความสำคัญด้านสุขภาพนำเศรษฐกิจ  โดยถือว่าควบคุมได้ดีและตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลโฟกัสในเรื่องการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน และกระทรวงคลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ส่วนมาตรการผ่อนคลายในบางจังหวัดต้องฟังคำแนะนำจากทางสาธารณสุขเป็นหลัก มอวว่ายังไม่ต้องรีบร้อนที่จะเปิดห้างสรรพสินค้า หรือร้านให้บริการต่างๆ เพราะเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่คงจะไม่ได้ออกไปจับจ่ายใช้สอย  หรือซื้อสินค้า  แต่จะไปเดินเล่นมากกว่า

“สมคิด”ฉีด 4 แสนล้านเน้นลงเศรษฐกิจฐานราก

นายกลินท์  สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจฐานรากที่จะให้ความสำคัญได้แก่ การเกษตรที่มูลค่าสูง และนำไปสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป แปลงเป็นสินค้ากลุ่มอาหาร เพื่อใช้บริโภคในประเทศและส่งออกได้ด้วย ซึ่งขณะนี้หอการค้าไทยมีการส่งเสริมอยู่แล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยจะต้องมีการใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าด้วย