ร้านทองสำรองเงิน ตั้งรับคนแห่ขาย

19 เม.ย. 2563 | 23:10 น.

คนไทยรายได้ลด แห่ขายทองรูปพรรณเพื่อเลี้ยงชีพ เตือนแรงเทขายทองคำ จะเสียโอกาสทำกำไร เหตุยังมีปัจจัยหนุนราคาเพิ่ม สมาคมผู้ค้าฯ ยันมีสภาพคล่องพอ รองรับแรงขายทองของประชาชน

หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา(โควิด-19) ประกอบกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาระบุว่าอาจเห็นการหดตัวของเศรษฐกิจโลกราว 3% ซึ่งแย่กว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 2551 ส่งผลให้ราคาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ประชาชนแห่นำทองคำไปขาย ถึงขั้นร้านค้าทองต้องขาดสภาพคล่อง จนต้องออกตั๋วรับเงินแทน 

 

นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระแสเงินหมุนเวียนของร้านค้าทองคำในช่วงนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากร้านค้าทองคำหลายแห่งมีการปรับตัว หลังจากวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมาราคาทองคำปรับเพิ่ม ขึ้นแรง ทำให้เกิดการขายทองคำจากลูกค้าอย่างหนักและหมุนเงินไม่ทัน แต่ปัจจุบันได้มีการบริหารเงินสดที่มีอยู่ นำมาใช้เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุดรวมถึงได้ติดต่อสำรองเงินล่วงหน้าจากธนาคารล่วงหน้า 1 วัน หรืออาจจะขอยืดหยุ่นจากลูกค้าในการผ่อนผันจ่ายเงิน 1-2 วัน

 

นอกจากนั้น ยังมีการเร่งส่งออกทองคำที่รับซื้อคืนออกไปต่างประเทศให้มากที่สุด ไม่เก็บไว้เพื่อเก็งกำไรเหมือนที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันราคาทองคำโลกค่อนข้างผันผวน บางครั้งปรับขึ้นลงถึง 20-30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ รวมถึงอาจจะมีการขายทำกำไรจากกองทุน SPDR ได้ ซึ่งต้องหาทางส่งออกทางคาร์โก้ที่ปลอดภัย หรือส่งโดยตรง แทนการฝากส่งในสายการบินทั่วไป

 

เนื่องจากอาจเกิดการตกหล่นหรือสูญหายได้แต่เงินที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนอาจจะล่าช้าประมาณ 2-3 วันขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ในช่วงนี้ คาดว่าจะผันผวนบวกลบไม่เกินบาทละ  200 บาท โดยมีความกังวลค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรงอีก

 

ด้านนายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ นอกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศนโยบายการเงินไม่จำกัดวงเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์ ยังกดดันอัตราผลตอบแทนตลาดพันธบัตรและสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่า ทำให้ทั้งกองทุนและนักลงทุนหันเข้าถือครองทองคำเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาทองคำ Spot ปรับเพิ่มขึ้น 14% ขณะที่ในเมืองไทยราคาปรับเพิ่ม 21% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน

 

ร้านทองสำรองเงิน  ตั้งรับคนแห่ขาย

 

“สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการนำทองคำออกมาขาย เพื่อทำกำไร และอีกส่วนน่าจะเป็นการขายทองคำ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยเห็นจากส่วนใหญ่เป็นการนำทองคำรูปพรรณออกมาขาย สะท้อนถึงรายได้ของคนที่ปรับลดลง ส่วนแนวโน้มราคาทองคำ ยังขึ้นกับการแพร่ระบาดของโดวิดจะรุนแรงไปถึงครึ่งปีหลังหรือไม่ ซึ่งฮั่วเซ่งเฮง ยังคงคาดการณ์ราคาทองคำ Spot ทั้งปีที่ 1,350-1,750 ดอลลาร์/ออนซ์”

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิดที่ยังไม่สามารถคลี่คลายลงในระยะเวลาสั้นๆ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และราคาหุ้นในตลาดโลกตกทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่คนหันมาถือครองมากขึ้น

 

โดยส่วนตัวประเมินราคาทองคำทั้งปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงใกล้เคียงราคา 27,100 บาทเมื่อเทียบกับ 8 ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นประชาชนนำทองคำออกขายจำนวนมาก จนทางร้านต้องออกตั๋วรับเงินและมีปริมาณคนรอคิวมากเป็น 2 เท่าของปีนี้ ขณะเดียวกันราคาทองคำ ก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัส แม้ว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนเมษายนแล้วประมาณ 6,200 บาทก็ตาม

 

“เรายังมีลูกค้าประจำนำทองคำมาขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำกำไรและเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีประชาชนนำทองคำออกขายทั้งระบบคาดว่ามูลค่ารวมประมาณหมื่นล้านบาท ซึ่งทางร้านได้แจ้งให้ลูกค้า แบ่งทองคำทยอยออกขาย เพราะมองว่า ในอนาคตข้างหน้าราคาทองยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก”

หน้า 13-14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19-22 เมษายน 2563