โฆษก ปชป. ย้ำถ้าไม่ร่วมมือกัน ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้

04 เม.ย. 2563 | 05:21 น.

โฆษก ปชป. ย้ำถ้าไม่ร่วมมือกัน ไม่สามัคคี ไม่มีวินัย ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การปฏิบัติตนตามข้อกำหนดต่างๆที่รัฐได้กำหนดว่า

ขณะนี้เรากำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทุกคนในประเทศจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของทางภาครัฐอย่างเดียว ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตนเพื่อให้เข้ากับมาตรการป้องกันด้วย ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎตามระเบียบ

 

ราเมศ รัตนะเชวง

สิ่งที่ไม่สบายใจคือกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีกลุ่มประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อยากให้ทุกคนคิดเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมอย่าคิดเพื่อตนเอง การขอความร่วมมือไปกักต้ว 14 วัน นอกจากเป็นผลดีต่อตนเองแล้วที่ได้ตรวจคัดกรองเขื้อให้มั่นใจ และจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก ที่ขณะนี้เราต้องการจำกัดวงเพื่อแยกบุคคลที่ติดเขื้อ เพราะหากคัดกรองได้ก็จะป้องกันการขยายในวงกว้างได้ หากทุกคนไม่ร่วมมือกัน ไม่สามัคคี ไม่มีวินัย ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้เลย

 

                                         โฆษก ปชป. ย้ำถ้าไม่ร่วมมือกัน ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้

 

นายราเมศกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเพิ่มเวลาการห้ามออกจากบ้าน อาจมีการขยายเวลาการประกาศเคอร์ฟิวเป็น 8 ชม.หรือ 10 ชม.นั้น คิดว่ารัฐบาลเป็นผู้มีข้อมูลดีที่สุด หากทุกคนไม่มีระเบียบวินัย รัฐจะดำเนินการออกกฏที่เข้มงวดมากขึ้นก็สมเหตุสมผล