เปิดไทม์ไลน์ 3 เดือน วิกฤติ COVID-19 เมืองไทย

เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่ไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤต COVID-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มี.ค.63)  Wisesight  ผู้ให้บริการข้อมูลบนโซเชียลมีเดียได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม2562 – 19 มีนาคม 2563 พบว่า มีข้อความที่พูดถึงไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 มากถึง 148 ล้านข้อความ มีเอนเกจเม้นต์ ทั้งหมด 1,100 ล้านเอนเกจเม้นต์ ประเด็นCOVID-19 ถูกพูดถึงในช่องทาง Twitter มากถึง 65% และใน Facebook 20%

 เหตุการณ์ของ COVID-19 เริ่มจากข่าวที่พบผู้ป่วยเป็นโรคปอดบวมรุนแรงที่เกิดจากไวรัสปริศนา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 ครับ ต่อมาวันที่ 25 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากจีน และพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 13 ประเทศ และเป็นวันที่มียอดเอนเกจเม้นต์ สูงที่สุด โดยมีมากถึง 86,519,760 เอนเกจเม้นต์ 

.

.

.

ส่วนข่าวสำคัญของเหตุการณ์สำคัญของ COVID-19 ที่เกิดขึ้น เรียงออกมาได้ตามนี้ครับ

25 ม.ค. ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา อันดับ 2 รองจากจีน 

และพบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 13 ประเทศ

31 ม.ค. พบผู้ติดเชื้อคนไทยรายแรก (คนขับแท็กซี่)

26 ก.พ. ปู่ย่าไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ปกปิดประวัติการเดินทาง สุดท้ายติดเชื้อไวรัส Covid-19

1 มี.ค. ไทยมีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายแรก

3 มี.ค. ผีน้อยขอกลับไทย

6 มี.ค.  รัฐฯออกแคมเปญ “แจกเงินสู้ COVID-19” / “รัฐฯ เปิดบัญชีขอรับบริจาค

12 มี.ค. โควิด-19" ป่วย 11 คน กลุ่มทองหล่อ

13 มี.ค. แมทธิว ดีน ติดเชื้อ

16 มี.ค.  สงกรานต์ 13-15 ไม่ให้เป็นวันหยุดเลื่อนเป็นช่วงเข้าพรรษา

18 มี.ค. รัฐบาลจัดสวดมนต์บทรัตนสูตร

ส่วนสถานการณ์ของวันนี้ (25 มีนาคม 2563) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 107 ราย ผู้ป่วยสะสม934 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และสถานที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลปิดทำการ ยกเว้นพื้นที่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่ยังเปิดให้บริการอยู่ อย่างเช่น ร้านอาหาร เปิดให้ซื้อกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น พื้นที่บางส่วนของห้างสรรพสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น ศูนย์อาหาร (ซื้อแบบกลับบ้าน) ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา นอกจากนี้ หลายองค์กรได้ออกนโยบายทำงานที่บ้าน  ผู้คนถูกสั่งห้ามออกจากบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในวันที่ 26 มี.ค. นี้รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

.

ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกและในไทยเองจะสิ้นสุดเมื่อไร แต่เชื่อว่าถ้าเราร่วมมือ ร่วมใจกัน ป้องกันตนเอง และปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด จุดจบของ COVID-19 จะมาถึงในไม่ช้า เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน