ถกไม่จบ คองเกรสยังไม่คลอดมาตรการเยียวยา 2 ล้านล้านดอลล์

มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯชุดใหญ่มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ( 64 ล้านล้านบาท) ที่ถกกันดุเดือดวานนี้ (24 มี.ค.) ยังไม่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาและคาดว่าอาจยืดเยื้อข้ามวันเนื่องจากยังมีหลายปมไม่ลงรอย แม้ก่อนหน้านี้ทั้งส.ส. และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจะออกมาระบุว่าใกล้บรรลุข้อตกลงกันได้แล้วก็ตาม  

ผู้นำทั้งฝั่งพรรคเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและฝ่ายพรรครีพับลิกันที่ครองวุฒิสภา ให้ความหวังเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (เวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ว่า การพิจารณารับรองชุดมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใกล้จะลุล่วงแล้วเหลือเพียงการรับรองข้อความและรายละเอียดขั้นสุดท้าย แต่ท้ายที่สุด สภาก็ไม่สามารถตกลงกันได้ทำให้คาดว่าการถกวาระดังกล่าวจะขยับมาเป็นเช้าวันพุธอีกวัน (ค่ำวันที่ 25 มี.ค. เวลาไทย)

หนึ่งในประเด็นที่ยังขัดแย้งกันอยู่เป็นแพ็คเกจให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่อุตสาหกรรมการบินและการกำกับดูแลการใช้เงินดังกล่าว แหล่งข่าววงในที่ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า ฝ่ายพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการตั้งเงื่อนไขที่เข้มงวดรัดกุมก่อนให้ความช่วยเหลือ เช่นเงื่อนไขห้ามซื้อหุ้นคืนในระยะยาว จำกัดการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้บริหารสายการบิน และห้ามพักงานพนักงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังย้ำว่า เงินช่วยเหลือที่ให้กับบรรดาสายการบินนั้นจะเป็นเงินกู้ที่ได้ดอกผลคืนมา แต่สายการบินที่กำลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้เรียกร้องให้ความช่วยเหลือครึ่งหนึ่งเป็นเงินให้เปล่า เพราะหากเป็นเงินกู้ทั้งหมดก็จะเป็นภาระหนี้ให้กับสายการบินมากจนเกินไป

นอกจากนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการกำกับดูแลการใช้เงินช่วยเหลือวงเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์ที่ฝ่ายพรรครีพับลิกันเสนอมานั้น สมาชิกสภาฝ่ายพรรคเดโมแครตเห็นว่าข้อเสนอความช่วยเหลือ ให้อำนาจแก่กระทรวงการคลังมากเกินไป และเสนอให้มีการตรวจสอบสถานะของบริษัทที่ขอเงินกู้จากกองทุนความช่วยเหลือทุก ๆ รอบสัปดาห์

สมาชิกสภาฝ่ายพรรคเดโมแครตยังเรียกร้องให้มีการจัดสรรเงินช่วยเหลือให้แก่โรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น และจัดสรรกองทุนกระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและมลรัฐฯ โดยย้ำว่ามาตรการให้ความช่วยเหลือควรมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือประชาชน ผู้ใช้แรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบสาธารณสุข ไม่ใช่ไปเน้นอุ้มบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ แต่ฝ่ายรีพับลิกันแย้งว่า การเพิ่มเงื่อนไขต่าง ๆ ของฝ่ายเดโมแครต จะสร้างความล่าช้าให้กับกระบวนการพิจารณา จึงควรมองภาพใหญ่ในการฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปมากกว่า

ทั้งนี้ ในร่างข้อเสนอชุดมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสในสหรัฐฯครั้งนี้ มีการเสนอกองทุนช่วยเหลือ SMEs วงเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์ (กว่า 11.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้บรรเทาภาระในการจ่ายเงินเดือนลูกจ้างรวมทั้งการปลดคนงาน นอกจากนี้ ข้อเสนอยังรวมถึงการแจกเงินสดแก่ประชาชนซึ่งอาจสูงถึงหัวละ 1,200 ดอลลาร์ (38,400 บาท) สำหรับคนโสด และ 2,400 ดอลลาร์ (76,800) สำหรับผู้ที่สมรส และ 500 ดอลลาร์ ( 16,000 บาท) สำหรับเด็ก

มูลค่าเงินแจกจะลดน้อยลงหากบุคคลผู้รับเงินมีรายได้มากกว่า 75,000 ดอลลาร์ (กรณีคนโสด) และมากกว่า 150,000 ดอลลาร์กรณีเป็นคู่สมรส  

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ชุดมาตรการช่วยเหลือวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์นี้หากผ่านการรับรองจากกระบวนการทางรัฐสภา ก็จะเป็นมาตรการช่วยเหลือทางการเงินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ