สกลนครปิด”ห้าง-สถานที่ท่องเที่ยว”สกัดโควิด

 

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์) ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนคร  ออกประกาศจังหวัดสกลนคร เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CoVD-19) อันเป็นโรคติดต่อ อันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสําคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 มีแนวโน้มแพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก จังหวัดสกลนครเป็นจังหวัด ที่มีแหล่งท่องเที่ยว มีท่าอากาศยาน ทําให้มีผู้คนเข้า - ออก จ้านวนมาก ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีการแพร่ ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว การควบคุมโรคอย่างทันเวลาและจํากัดการชุมนุมของประชาชนเพื่อไม่ให้การแพร่ ระบาดขยายไปในวงกว้าง จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่งเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่าง ๆ ที่มี ความเสี่ยงสูง

อาศัยอํานาจตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วน ในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMID-19) มาตรการยับยั้งการระบาด ภายในประเทศ และอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนคร ได้มีมติที่ประชุมฯ ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ณ ห้องประชุมภูริทัตโต ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสกลนคร ให้ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการระบาย แออัด เบียดเสียดในพื้นที่จังหวัดสกลนครเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 2 เมษายน 2563 ดังต่อไปนี้

1. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือ บริเวณเดียวกัน เว้นแต่ ธนาคาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จําเป็นต่อการดํารงชีพ และร้านอาหาร (ให้เปิดเฉพาะการจําหน่ายอาหารเพื่อนํากลับไปบริโภคที่อื่น)

2, ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ทุกประเภท (ให้จําหน่ายใต้เฉพาะการนําไปรับประทานหรือดื่ม ที่อื่นเท่านั้น) สําหรับร้านอาหารในโรงแรมที่ให้บริการได้เฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมเท่านั้น

3. พื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ

4. ตลาดและตลาดนัด (เปิดเฉพาะการจําหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสําเร็จ เพื่อนํากลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จําเป็นต่อการดารงชีพ)

5. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม

 6. สถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย

7.สวนสนุก สวนน้ํา และตู้เกม

8.สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ

9.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา หรือสนามพระเครื่อง พระบูชา

10.สถานที่บริการควบคุมน้ําหนัก คลินิกความงาม และสถานเสริมความงาม

11.สถานที่ให้บริการสปา อาบน้ํา ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ (ยกเว้นสถานประกอบการ บําบัดโรคสัตว์ที่รับสัตว์ป่วยไว้รักษา)

12. สระว่ายน้ํา หรือกิจการอื่น ๆ ในทํานองเดียวกัน

13. สถานที่ให้บริการบ่อตกกุ้ง บ่อตกปลา

14. สวนสาธารณะทุกแห่ง

 

15. สถานที่ท่องเที่ยวสําคัญในจังหวัดสกลนคร ได้แก่

(1) วัดถ้ําผาแด่น อ้าทอเมืองสกลนคร

(2) อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ อําเภอเมืองสกลนคร

(3) ชุมชนภูไทกะตะ (รวมแบ่งตาลปัตร) อําเภอเมืองสกลนคร

 (4) คลองชลประทานบ้านพาน ตําบลขมิ้น อําเภอเมืองสกลนคร

(5) บ้านโบราณ ๓๐๐ ปี ชุมชนท่าแร่ และอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ อําเภอเมืองสกลนคร

(6) สวนสาธารณะหนองทุ่งมน อําเภอเจริญศิลป์

(7) สังเวชนียสถาน 4 ตําบล อําเภอส่องดาว

 (8) หาดสวนหิน อําเภอวาริชภูมิ

(9) แพน้ําอูน อําเภอพังโคน

 (10) เทสกเจดีย์ เทสรังสีอนุสรณ์ อําเภอพรรณานิคม ยกเว้นกรณีมีงานพิธี งานรัฐพิธี

(11) พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อําเภอพรรณานิคม

(12) พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อําเภอพรรณานิคม

(13) พระธาตุภูเพ็ก อําเภอพรรณานิคม

 (14) พญาเต่างอย อําเภอเต่างอย

(15) ห้วยหินชะแนนใหญ่ อําเภอกุสุมาลย์

(16) อุทยานแห่งชาติภูผายล อุทยานแห่งชาติภูพาน และอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ยกเว้นการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

(17) ตลาดนัดถนนผ้าคราม หน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

 (18) พิพิธภัณฑ์ภูพานและท้องฟ้าจําลอง

 (19) พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพิพิธภัณฑ์พระปู่หลุย จันทสาโร อําเภอเมืองสกลนคร

(20) ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ยกเว้นการปฏิบัติงานของ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

เนื่องจากเป็นกรณีมีความจําเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสีย อย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตาม มาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2563

(นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์)

ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนคร

“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”