สหภาพยุโรปเตรียมปิดพรมแดนนาน1เดือน
สหภาพยุโรปเตรียมปิดพรมแดนนาน 30 รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ชาติสมาชิกหลายประเทศก็เริ่มปิดพรมแดนของตัวเองแล้ว ล่าสุดฝรั่งเศสรับลูกสั่งปิดประเทศแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มี.ค. 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศว่า สหภาพยุโรป (EU) เตรียมจะปิดพรมแดนไม่ให้มีการเดินทางโดยไม่จำเป็น เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ซึ่งยุโรปกลายเป็นจุดศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ไปแล้ว
เออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน
นางวอน แดร์ เลเยน มั่นใจว่ามาตรการนี้จะผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรียุโรป ซึ่งจะทำการโหวตวันนี้( 17 มี.ค.) โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเบื้องต้น 30 วัน หรือราว 1เดือน แต่พลเมืองของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป, เจ้าหน้าที่ที่จำเป็นเช่น หมอและพยาบาล กับผู้ที่ขนส่งสินค้ามายังสหภาพยุโรปจะได้รับการยกเว้นจากมาตรการนี้
ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทางการสเปนประกาศปิดพรมแดนภาคพื้นดินไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศ ยกเว้นคนงานที่จำเป็นต้องเข้าพรมแดน และการขนส่งสินค้า เพิ่มเติมจากมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศที่ไม่ให้คนออกมานอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลังจากพวกเขามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 1,400 รายในวันเดียวเป็น 9,190 รายแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตถึง 309 คน
ด้านฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ประกาศปิดพรมแดนของประเทศตั้งแต่เที่ยงวันอังคารที่ 17 มี.ค. เป็นต้นไป ตามที่ตกลงกับชาติ EU อื่นๆ โดยนายมาครงประกาศด้วยว่า สหภาพยุโรปจะปิดพรมแดนภายนอกในวันอังคารนี้ ไม่ให้ชาวต่างชาติเข้ามา
นอกจากนี้ฝรั่งเศสจะเริ่มบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดในวันเดียวกัน โดยให้ผู้คนอยู่แต่ในบ้าน ห้ามเดินทางอย่างไม่จำเป็นเป็นเวลา 15 วัน และจะมีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน นอกจากนี้ยังปิดสวนสาธารณะและสวนหย่อมต่างๆ ห้ามคนรวมตัวกันไม่ว่าจะเป็นงานสังคมหรือครอบครัว ขณะที่กองทัพจะออกมาช่วยขนส่งคนป่วยไปโรงพยาบาล และจะเพิ่มโรงพยาบาลทหารอีก 1 แห่งเพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลด้วย
ด้านเยอรมนี ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 7,200 ราย ก็ประกาศปิดพรมแดนที่เชื่อมต่อกับฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, สวิตเซอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ในวันจันทร์ ยกเว้นการส่งสินค้าและส่งคนมาทำงาน โดยมีเพียงพรมแดนที่เชื่อมต่อกับเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนียังมีมาตรการเพื่อจำกัดการสัมผัสติดต่อในสังคม รวมทั้งการปิดโรงเรียน ปิดร้านที่ไม่ใช่ร้านขายของชำ ปิดอาคารวัฒนธรรมและสถานบันเทิงต่างๆ และเรียกร้องให้ประชาชนแยกเลิกการเดินทางในวันหยุดทั้งภายในประเทศและการไปทางประเทศ