“อนุทิน"ชงนายกฯ ปิดผับ-บาร์ สกัดไวรัสโคโรนาระบาด

14 มี.ค. 2563 | 10:59 น.

“อนุทิน"ชงนายกฯปิดผับ บาร์ ป้องกันโควิด-19 ระบาดจันทร์นี้ ชี้จำเป็นต้องใช้ยาแรง เหตุไม่อยากให้คนไทยเผชิญสถานการณ์แบบยุโรปที่ต้องเลือก ใครจะอยู่หรือตาย

 

 

 

 

วันนี้ (14 มี.ค.63) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมหน่วยราชการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19  ที่จะเสนอต่อคณะกรรมการแห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันจันทร์ที่ 16 มี.ค.นี้ว่า   จะมีการประกาศพื้นที่เขตติดต่อโรคร้ายแรงเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นมาตรการทำให้การแพร่เชื้อลดน้อยลงมากที่สุด ,ห้ามไม่ให้ชุมนุม, การเดินทาง และสถานบริการ  โดยเฉพาะการจัดงานสงกรานต์ปีนี้ก็คงต้องเงียบและข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุขต้องเสียสละและสแตนด์บายเพื่อดูแลประชาชน และงดกิจกรรมสันทนาการ กีฬา ดนตรี ผับ บาร์ หรือแหล่งรวมตัวผู้คน จะงดในช่วงนี้ไปก่อน เพราะต้อง ยึดถึงสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ

 

 

"ช่วงนี้คงมีความจำเป็นที่จะต้องสั่งปิดสถานบริการ เช่น ผับ บาร์ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มก้อนที่มีไม่กี่คน ทำให้เราต้องไปติดตามผู้เสี่ยงติดโรคกว่า 100 คน นำมาสืบสวนโรค เพื่อหยุดการระบาดของโรค จึงจำเป็นต้องปิด ผับ บาร์ เพราะได้ขอความร่วมมือไปแล้ว แต่ก็ยังไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่ จนทำให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นจะต้องบังคับใช้ ซึ่งเราจะสั่งปิดจนกว่าความปลอดภัยจะเกิดขึ้น  เพราะปัญหาเกิดจากคนดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ถ้าใครจะด่าที่ทำให้อดเที่ยว ก็ต้องไปโทษกลุ่มคนพวกนี้ " นายอนุทิน กล่าว

 

สำหรับมาตรการงดเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ชัดเจนอยู่แล้ว หากมาจากประเทศที่เราประกาศว่าเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ต้องเข้ากระบวนการกักโรค 14 วัน ไม่มีข้อยกเว้น หากไม่มีใบรับรองแพทย์สายการบินก็ไม่สามารถออก boarding pass ได้ และถ้ามาต่อเครื่องจะส่งกลับทันที ซึ่งมาตรการนี้ได้ผลมากและได้ส่งผู้โดยสารกลับไปหลายคนแล้ว โดยในวันนี้ส่งกลับไปแล้ว 60 คน รวมทั้งควบคุมไม่ให้เดินไปช๊อปปิ้ง

 

 

ยืนยันว่าช่วงนี้เราจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม

 

 

นายอนุทิน ยืนยันด้วยว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 แต่ที่ต้องดำเนินการมาตรการเข้มข้นเนื่องจากไม่ต้องการให้คนไทยต้องเจอเหตุการณ์แบบยุโรป และป้องกันไม่ให้ประชาชนเจ็บป่วยจนไปถึงสถานการณ์ที่ต้องเลือกว่าจะให้ใครอยู่หรือ ใครตาย